SECUREดีมานด์ระบบฮอต แฮกเกอร์โจรกรรมสูง4เท่า
ทันหุ้น – SECURE ดีมานด์ระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ฮอต พบแฮกเกอร์โจรกรรมผ่านระบบออนไลน์พุ่งขึ้นถึง 4 เท่า ฟากผู้บริหารแย้มอยู่ระหว่างขายระบบให้องค์กรใหญ่ พร้อมซุ่มคุยพาร์ตเนอร์ขยายฐานลงทุนเพิ่ม คาดชัดเจนไตรมาส 4 นี้ เล็งคลอดโปรดักต์ใหม่อัพยอด มั่นใจปั๊มรายได้ชนเป้าโต 10-15% ฟากโบรกดีดลูกคิดกำไรโตเด่น 203% ชูพิกัดไกล 31.40 บาท
นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) หรือ SECURE เปิดเผยว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) หน่วยงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของสหรัฐ ประกาศว่า การโจรกรรมผ่านระบบออนไลน์เติบโตสูงขึ้น 4 เท่า ขณะที่ในประเทศไทยพนักงานออฟฟิศ หรือหลายองค์กรทำงานที่บ้าน (Work From Home) ส่งผลให้ไม่มีระบบป้องกันการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และเกิดการโจรกรรมมากขึ้น ทำให้ดีมานด์หรือความต้องการระบบป้องกัน หรือผลิตภัณฑ์การรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cybersecurity) มากขึ้น โดยเฉพาะองค์กรชนาดใหญ่ และสถาบันทางการเงิน
**รุกเจรจาองค์กรรัฐ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อจำหน่ายCybersecurity โดยองค์กรภาครัฐอยู่ระหว่างการจัดสรรงบประมาณใหม่ ส่วนภาคเอกชนคาดจะเห็นการลงทุนในอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะเดียวกันหากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวชัดเจน คาดการลงทุน Cybersecurity จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมาในประเทศมีจำนวนแฮกเกอร์ระบบสูงขึ้นทุกวัน
ประกอบกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cybersecurity)และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งาน
ขณะเดียวกันบริษัทจะเดินหน้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Cybersecurity ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์ และพิจารณาการลงทุน ทั้งนี้บริษัทมีเงินสดจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และพร้อมจะลงทุนเพื่อขยายฐานการเติบโตในอนาคต เบื้องต้นคาดจะเห็นความชัดเจนประมาณไตรมาส 4/2564
มั่นใจรายได้วิ่งชนเป้า
อีกทั้งการสร้างศูนย์บริการด้านเทคนิค (Technical Support Center) ยังเป็นไปตามแผน และคาดจะเปิดให้บริการไตรมาส 4/2564 ตามแผน บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้า 10-15% จากปีก่อน 639.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.55 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้แล้ว 487.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 46.30 ล้านบาท
นายนักรบ กล่าวต่อว่า บริษัทจะเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับดีมานด์ Cybersecurity ที่เกิดขึ้นในตลอดเวลา อีกทั้งบริษัทจะได้รับอานิสงส์การบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนระบบ Cybersecurity ให้เติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นทุกๆ ปี เบื้องต้นคาดผลิตภัณฑ์จะหนุนการเติบโตรายได้ให้เพิ่มขึ้นจากการเติบโตปกติอีก 10-15%
พิกัด 31.40 บ.
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดกำไรปกติปี 2564 ที่ 71 ล้านบาท (+203% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน) แต่ปรับเพิ่มกำไรปี 2565 เป็น 99 ล้านบาท (+39%) จากการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้ปี 2565 เป็นเติบโต 20% ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่ม PER ขึ้นจาก 30.4x ขึ้นเป็น 33.5x ให้สะท้อน Premium ที่ควรได้เพิ่มขึ้นจากการปิด Vendor ใหญ่ระดับโลกเพิ่มเติม และประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 31.40 บาทต่อหุ้น ฝ่ายวิเคราะห์เลือก SECURE เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ICT Small Cap และให้เป็นตัวแทนการเติบโตของ Cybersecurity ในประเทศไทย