หมอมนูญห่วงคนไทย 2 กลุ่ม เสี่ยงเสียชีวิตสูงจากการติดโควิด

วันนี้ ( 21 เม.ย. 65 )นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าคนไทยกับวัคซีนโควิด แบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆดังนี้ :

1.กลัวผลข้างเคียงของวัคซีนมากกว่าโรคโควิด กลัวไม่กล้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดทุกชนิด ไม่ว่าวัคซีนเชื้อตาย (ซิโนแวคและซิโนฟาร์ม) อะดีโนไวรัสเป็นพาหะ (แอสตร้าเซเนก้า) mRNA (ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา) 

2.กลัวผลข้างเคียงของวัคซีนชนิด mRNA (ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา) เท่านั้น แต่วัคซีนชนิดอื่นยอมฉีดได้ เช่น ซิโนแวค (ซิโนฟาร์ม) 2 เข็ม หรือแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม หรือซิโนแวค (ซิโนฟาร์ม) 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม

3.กลัวเชื้อไวรัสโควิด-19 และป่วยหนักจากโรคโควิดมากกว่ากลัวผลข้างเคียงของวัคซีน

3.1 ได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม แล้วฉีดเข็มกระตุ้นด้วยไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอีก 1 เข็ม 

หรือ 3.2 ได้ฉีดแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม กระตุ้นด้วยไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอีก 1 เข็ม 

กลุ่มนี้รู้สึกว่าฉีดพอแล้ว ไม่อยากฉีดวัคซีนชนิด mRNA กระตุ้นเข็มที่ 2  จะขอรอฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต

4. กลัวเชื้อไวรัสโควิด และป่วยหนักจากโรคโควิดมาก หลังได้เห็นคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขให้คนกลุ่ม 608 (ดูรูป) ฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 2 ด้วย mRNA วัคซีน จะรีบมาขอฉีดทันที 

ถ้าเคยฉีดวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม และเข็มกระตุ้นด้วยไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 1 เข็ม จะขอฉีดไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอีก 1 เข็มเป็นเข็มที่ 5 หลังเข็มสุดท้าย 4 เดือน

หรือถ้าได้แอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม กระตุ้นด้วยไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอีก 1 เข็ม จะขอฉีดไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอีก 1 เข็ม เป็นเข็มที่ 4 หลังเข็มสุดท้าย 4 เดือน

ส่วนตัวผมเป็นห่วงกลุ่มแรกมากที่สุด และกลุ่มที่ 2 รองลงมา เพราะกลุ่มแรกไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว โดยเฉพาะคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ หากติดเชื้อมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิต ผมต้องเสียเวลาในการโน้มน้าวให้คนไข้หรือลูกหลานคนไข้เปลี่ยนใจกลัวโรคโควิดมากกว่ากลัววัคซีน ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก กว่าจะยินยอมต้องใช้เวลานาน บางครั้งก็ไม่สำเร็จ

สำหรับกลุ่มที่ 3 และ 4 ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนชนิด mRNA ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะคนกลุ่มเปราะบางในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต

ทั้งกลุ่ม 3 และ 4 หากติดเชื้อ ส่วนใหญ่มีอาการไม่มากหรือบางคนอาจไม่มีอาการด้วยซ้ำ

ข้อมูลจาก : นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์

ภาพจาก :   AFP/นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์