รีเซต

โจ ไบเดน วอนสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายปกป้องเยาวชนจากโซเชียลมีเดีย

โจ ไบเดน วอนสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายปกป้องเยาวชนจากโซเชียลมีเดีย
TNN ช่อง16
9 กุมภาพันธ์ 2566 ( 10:50 )
39
โจ ไบเดน วอนสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายปกป้องเยาวชนจากโซเชียลมีเดีย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ขึ้นแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส หรือที่เรียกว่า State of the Union โดยเป็นการแถลงนโยบายประจำปี และการรายงานผลงานในรอบปีของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต่อสภาคองเกรส ณ อาคารรัฐสภา (U.S. Capitol) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการแถลงมักจัดขึ้นในวันอังคารตามเวลาสหรัฐอเมริกาและได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากชาวอเมริกันทั่วประเทศ โดยไบเดนพยายามเรียกเสียงสนับสนุนให้สภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้ และส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรีในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี


ไบเดน ระบุว่า “ทั้ง 2 พรรคควรร่วมกันผ่านกฎหมายเพื่อเพิ่มกำลังการต่อต้านการผูกขาด และป้องกันไม่ให้แพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่เหล่านี้ ชิงความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม” 


ถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกกฎหมายร่วม เพื่อสกัดกั้นไม่ให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่น อีกทั้งเราควรจะระงับโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปที่เด็ก และกำหนดข้อจำกัดด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเหล่านี้เก็บข้อมูลของพวกเรา” ไบเดนกล่าว 


คำปราศรัยดังกล่าวสะท้อนถึงสิ่งที่ไบเดนกล่าวในการแถลงนโยบายประจำปีเมื่อปีที่แล้ว จากเหตุการณ์สะเทือนโลกโซเชียลสหรัฐฯ ในปี 2021 ที่ฟรานเซส เฮาเกน (Frances Haugen) อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก (Facebook) ออกมาแฉ ปล่อยเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตที่ผู้ใช้อายุน้อยต้องเผชิญ เมื่อใช้แพลตฟอร์มของบริษัท เช่น อินสตาแกรม (Instagram) หรือเฟซบุ๊ก (Facebook) โดยเฮาเกน ระบุว่า เฟซบุ๊กรู้ว่าแพลตฟอร์มสร้างปัญหาในสังคม ทั้งข้อความแสดงความเกลียดชัง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตในเด็ก แต่เฟซบุ๊กไม่ยอมจัดการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเกรงว่ายอดการมีส่วนร่วมจะหดตัวลง หรือกล่าวอีกนัยคือ เฟซบุ๊กเลือกผลประโยชน์มากกว่าความปลอดภัยในการใช้งาน



ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้มีการปรับปรุงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โซเชียลมีเดียในสหรัฐอเมริกา เพียงเล็กน้อย เพียงเล็กน้อย โดยฝ่ายนิติบัญญัติได้เสนอร่างกฎหมายนับสิบฉบับ เช่น การสั่งระงับไม่ให้แพลตฟอร์มอย่าง อินสตาแกรม และ ยูทูบ กำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้เยาว์ แต่ไม่มีใครได้รับการสนับสนุนมากพอที่จะทำให้เกิดการลงคะแนนเสียงในสภา 


นอกจากนั้น ไบเดน ยังกล่าวถึงการทำงานของฝ่ายบริหารที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับจีน โดยระบุถึงการออกกฎหมายด้านเทคโนโลยีชิปมูลค่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.74 แสนล้านบาท เพื่อส่งเสริมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสุนทรพจน์จะมุ่งเน้นไปที่ประเทศจีน แต่ไบเดนไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าฝ่ายบริหารของเขาจะแบน ติ๊กต็อก (TikTok) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมจากจีนหรือไม่ 


ที่มาของข้อมูล theverge

ที่มาของรูปภาพ Reuters


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง