‘เกาหลีเหนือกางแผนฟื้นเศรษฐกิจ’ ชี้ ประเทศผ่านพ้น “กลียุคที่เลวร้ายสุด” พร้อมเปลี่ยนตัวบุคคลสำคัญหลายคน
---เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ---
KRT สื่อกระบอกเสียงรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มกราคม) ว่า สมัชชาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ หรือ สภาเกาหลีเหนือ เปิดแผนฟื้นการผลิตภาคอุตสาหกรรมให้กลับคืนสู่ปกติ และบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ตั้งไว้ในปีนี้ หลังจาก "กลียุคเลวร้ายที่สุด" คือการระบาดของโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้วในปี 2022 ที่ผ่านมา และย้ำว่าเกาหลีเหนือประสบกับ “ชัยชนะ” เหนือโควิด-19 แล้ว แม้ว่าจะไม่มีใครล่วงรู้ความจริงได้ว่า มีการระบาดในเกาหลีเหนือมากน้อยเพียงใด และสถานการณ์เป็นอย่างไร
สมัชชาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ หรือ SPA ชุดที่ 14 ได้เสร็จสิ้นการประชุมสมัยที่ 8 ที่กรุงเปียงยาง เมืองหลวงเกาหลีเหนือ เป็นเวลา 2 วันเมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา (17-18 มกราคม) เพื่อหารือเรื่องงบประมาณของรัฐ นโยบายเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล ทั้งนี้ สื่อตะวันตกมองสภาเกาหลีเหนือเป็นเพียงสภาตรายาง ไร้อำนาจที่แท้จริง
---นายกฯ ชี้ เกาหลีเหนือผ่านพ้น "กลียุคที่เลวร้ายที่สุด" ของประเทศ---
อย่างไรก็ตาม คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย คงมีแต่ คิม ต็อคฮอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ เข้าร่วมประชุมสภา เขาได้ทบทวนการทำงานของรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว และกล่าวชื่นชมเกาหลีเหนือว่า ประสบความสำเร็จในการจัดการกับ "กลียุคที่เลวร้ายที่สุด" นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ คือการระบาดของโควิด-19 ทั้ง ๆ ที่เกาหลีเหนือมีจุดอ่อนหลายประการ ในการปฏิบัติตามแผนรับมือโควิดเมื่อปีที่แล้วให้ลุล่วง
นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือฟื้นคืนการผลิตในโรงงานเหล็กต่าง ๆ สู่ภาวะปกติ เพิ่มการผลิตในเหมืองเหล็กรวมทั้งในโรงงานผลิตเหล็กกล้า รวมไปถึงฟื้นการผลิตในโรงงานเคมีต่าง ๆ ให้เต็มศักยภาพ เพื่อช่วยเร่งโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ด้วย
สำหรับเรื่องการระบาดของโควิด-19 นั้น เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียง 74 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในโลก ด้านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า “เป็นความมหัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” ของประเทศใด ๆ ซึ่งเกาหลีเหนือขาดการเผยแพร่ข้อมูล ขาดโครงการฉีดวัคซีน รวมถึงระบบสาธารณสุขที่ทรุดโทรมของประเทศ
ด้านธนาคารกลางเกาหลีใต้ประเมินว่า เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือหดตัวลงราว 0.1% ในปี 2021 ซึ่งเป็นการถดถอยปีที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งจากมาตรการคุมเข้มโควิด-19 และการถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศ
---เกาหลีเหนือปรับกระบวนทัพ---
เมื่อช่วงต้นเดือน เพิ่งมีรายงานว่า เกาหลีเหนือได้เปลี่ยนตัวบุคคลสำคัญหลายคน ตั้งแต่ พัค จองชอน ผู้นำที่ทรงอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในกองทัพ รองจาก คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ซึ่งพัค รองประธานคณะกรรมการทหารกลางของพรรคแรงงาน และเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคแรงงาน ได้ถูกแทนที่โดยรี ยองกิล ในการประชุมประจำปีคณะกรรมการกลางของพรรค
รวมถึง รี ยองโฮ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือที่เคยมีบทบาทสำคัญ ในการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือกำจัดแล้ว
ขณะเดียวกัน ช่วงปลายปีก่อน คิม จองอึน ผู้ได้เปิดตัวลูกสาว ที่ทางสื่อเกาหลีใต้ระบุว่าเธอมีชื่อว่า จู-เอ ด้านสำนักข่าว Al Jazeera รายงงานข้อมูลอ้างอิงจากหน่วยสืบราชการลับของเกาหลีใต้ ระบุว่า การปรากฎตัวของลูกสาวผู้นำเกาหลีเหนือท่ามกลางสาธารณชน อาจเป็นการแสดงให้เห็นว่า ในอนาคต หนึ่งในทายาทของเขาจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของเกาหลีเหนือ ซึ่งจะนับเป็นการถ่ายทอดอำนาจครั้งที่สามสู่สมาชิกครอบครัวคิม
ด้านสำนักข่าวทางการของเกาหลีเหนือ ระบุว่า เด็กหญิงคนนี้ เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ของผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งหลังจากที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เด็กหญิงคนนี้อาจถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ ถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุราว 9 ถึง 10 ขวบก็ตาม
นับเป็นการเปิดตัวทายาทคนแรก ก็ไม่ได้ฟันธงว่าในอนาคต เด็กหญิงจู-เอ จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ
ด้านสื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ระบุว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ มีทายาททั้งหมด 3 คน เกิดในปี 2010, 2013 และ 2017 ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย ส่วนลูกคนที่สามเป็นผู้หญิง ซึ่งเด็กหญิงจู-เอ ที่ปรากฏในภาพเคียงข้างกับผู้นำเกาหลีเหนือเป็นลูกคนกลาง อายุราว 10 ขวบ
————
แปล-เรียบเรียง: เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง: