รีเซต

ย้อนคดีดัง! ตำรวจ รีดเงิน-ไถเงิน

ย้อนคดีดัง! ตำรวจ รีดเงิน-ไถเงิน
TeaC
23 สิงหาคม 2564 ( 15:40 )
734
ย้อนคดีดัง! ตำรวจ รีดเงิน-ไถเงิน

หลังจากมีการสั่งการให้ ผู้กำกับโจ้ หรือสารวัตรโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 (ศปก.ภ.6) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ตั้งแต่ วันนี้ (22ส.ค.) จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการจับกุม สืบสวนขยายผลผู้ต้องหาคดียาเสพติด  โดยประเด็นกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากบนสังคมออนไลน์ถึงพฤติกรรมการ "รีดไถเงิน" ของตำรวจไทยที่ยังคงมีให้เห็น รวมทั้งรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง เชิญ "รองแต้ม" พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ และทนายเดชา ร่วมล้วงวงคุยถึงประเด็นร้อนนี้ด้วย แต่วันนี้ TrueID พาย้อนคดีดังตำรวจไทย ที่ไม่ได้จบแค่รีดไถเงิน 

 

ดาบตำรวจบางนารีดไถโผล่คลิป

 

มื่อปี 2556 ยังจำกันได้ไหม? ประเด็นร้อนแรงโด่งดังกระทบภาพลักษณ์วงการสีกากีไม่น้อย จากกรณี "ดาบตำรวจบางนารีดไถ่เงินโผล่คลิปว่อน" โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่มีการอ้างว่า เป็นการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกรถยนต์ และจักรยานยนต์ที่ทำผิดกฏจราจร มาออกใบสั่ง พร้อมมีการเรียกเก็บเงิน บริเวณสถานีรถไฟฟ้า แบริ่ง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างยูทูปและมีการส่งต่ออย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์หนักมาก สุดท้ายจบลงที่ไล่ดาบตำรวจคนดังกล่าวออกราชการ

 

 

นึกว่าจะมาช่วยเหลือประชาชน ที่ไหนได้มาเก็บค่าดูแลจะได้รู้จักกันไว้

 

เสียงสะท้อนจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความ “นึกว่าจะมาช่วยเหลือประชาชน ที่ไหนได้มาเก็บค่าดูแลจะได้รู้จักกันไว้วันหลังจะได้สะดวกขึ้น” เมื่อปี 2562 โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อถูเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไม่แพ้กันสำหรับพฤติกรรมที่ไม่หมดไม่สิ้นสักทีของ "ตำรวจไทย" 

 

โดยคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นริเวณบนถนนเส้นหนองใหญ่ จ.ชลบุรี ซึ่ง "ตำรวจทางหลวง" ขับรถวิทยุตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง ระบุหมายเลขข้างรถ 3201 ย้อนศรมาหา แล้วสอบถามว่าจอดรถรออะไร เจ้าของรถบรรทุกคนดังกล่าวจึงตอบว่า รถยางแตกจอดรอช่างมาซ่อม จากนั้นในคลิปแสดงให้เห็นว่าได้มีการพูดคุยกันและตำรวจเอ่ยปากขอค่าดูแล 100 บาท พูดประมาณว่า "จะได้รู้จักกันไว้ ดูแลกันไป เอามาเลยแบงก์หมื่นก็ได้"

 

ฉาวอีก! ด.ต. อุ้มซ้อมรีดเงิน

 

ดูเหมือนว่าการรีดไถเงินไม่ได้มีแค่บนท้อนถนนแต่พฤติกรรมดังกล่าวยังขยายไปสู่การ อุ้ม ซ้อม รีดเงิน ประชาชนตาดำ ๆ แถมได้เงินยังไม่พอ ยังบังคับให้เป็นสายเดินยา ซึ่งเหตุการณ์นี้โด่งดังสะท้อนวงการตำรวจอีกครั้ง เมื่อ ผศ.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสาพาผู้เสียหายชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ คำมูล อายุ 24 ปี น.ส.สาวิตรี กิตติพันธ์ อายุ 18 ปี และ น.ส.เอ อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วีระพงศ์ อะภัยวงศ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังผู้เสียหายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน อ้างตัวเป็นตำรวจบุกห้องพักขโมยทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกาย รีดทรัพย์ และบังคับให้เป็นเด็กเดินยาเสพติด หากไม่ทำตามจะถูกซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ

 

กรณีดังกล่าวยังคงเป็นพฤติกรรมซ้ำซากที่มีให้เห็นในสังคม ขณะที่บทลงโทษที่หลายคนรู้สึกว่า กฎหมายอ่อน นั่นคือ ให้พักราชการก่อน หรือโยกย้ายจากตำแหน่งเดิมไปที่อื่น พอเรื่องจบก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่วังวนเดิม ๆ ที่ประชาชนยังต้องตกเหยื่อของ "ตำรวจจอมรีดไถเงิน" บางคน 

 

และนับวันตำรวจรีดไถเงินบางคนตั้งแต่ รีดไถผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนท้องถนน ข้ามมารีดไถผู้ต้องหาคดีต่าง ๆ จนถึงขั้นอุ้ม ซ้อมทำร้ายร่างกาย ลักพาตัวเพื่อรีดเงิน ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่บทลงโทษที่ผู้กระทำผิดได้รับยังคงดูเบาบาง เมื่อเทียบกับการที่ประชาชนต้องสูญเสียทรัพย์สินยังไม่พอ แต่ยังสูญเสียชีวิต ทั้งพิการจากการถูกซ้อม ถูกข่มขืน ที่กระทบทั้งร่างกายและจิตใจ 

 

บวกกับบทลงโทษที่ไม่ได้ทำให้ตำรวจบางนายเกรงกลัว แต่กลับทำให้เกิดพฤติกรรมลุแก่อำนาข รีดไถประชาชนจนเคยชิน ไม่หวั่นเกรงต่อกฎหมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพพจน์ตำรวจไทยในสายตาประชาชน "ติดลบหนักหนา" 

 

คงต้องจับตาดูคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ จะเป็นอย่างไร เนื่องจากได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง ถึงการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งหากตรวจสอบว่าเป็นจริง แล้วบทลงโทษจะนักหนาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้แวดวงสีกากีไม่ติดลบในสายตาประชาชนได้ไหม งานนี้ต้องติดตามกันต่อ!

 

โดนตำรวจรีดไถ แจ้งเลยที่นี่

 

ทั้งนี้ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (คสช.) ขอความร่วมประชาชน หากพบเบาะแสการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถแจ้งเบาะแสได้ 2 ช่องทาง คือ

 

  • ตู้ปณ.444 ปณ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ 10200 หรือสำนักงานเลขาธิการคสช. ตู้ปณ.444 ปณ.ราชดำเนิน กรุงเทพ 10200
  • เบอร์ Hot line 1299 

 

 

ข้อมูล : มติชน, ไทยรัฐ 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง