รีเซต

โควิด-19: ชายอเมริกันที่หลงเชื่อทฤษฎีสมคบคิด เรื่องไวรัสโคโรนา ต้องเสียภรรยาเพราะโรคระบาดมรณะ

โควิด-19: ชายอเมริกันที่หลงเชื่อทฤษฎีสมคบคิด เรื่องไวรัสโคโรนา ต้องเสียภรรยาเพราะโรคระบาดมรณะ
ข่าวสด
26 สิงหาคม 2563 ( 08:40 )
169
โควิด-19: ชายอเมริกันที่หลงเชื่อทฤษฎีสมคบคิด เรื่องไวรัสโคโรนา ต้องเสียภรรยาเพราะโรคระบาดมรณะ

 

โควิด-19: ชายอเมริกันที่หลงเชื่อทฤษฎีสมคบคิด เรื่องไวรัสโคโรนา ต้องเสียภรรยาเพราะโรคระบาดมรณะ - BBCไทย

คนขับรถแท็กซี่ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ซึ่งหลงเชื่อทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และคิดว่าเชื้อโรคนี้เป็นเรื่องหลอกลวง ต้องสูญเสียภรรยาที่ล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19

 

นายไบรอัน ลี ฮิตเชนส์ และ เอริน ภรรยา ได้อ่านและเชื่อคำกล่าวอ้างต่าง ๆ ทางออนไลน์ที่ระบุว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นเรื่องลวงโลก มีความเชื่อมโยงกับสัญญาณ 5G หรือคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดา

 

Facebook
ไบรอัน สูญเสีย เอริน ภรรยาไปในเดือนนี้

 

ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านสุขภาพของทางการ หรือไปพบแพทย์ตอนที่พวกเขาล้มป่วยเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไบรอันหายจากอาการป่วย แต่ภรรยาวัย 46 ปีของเขามีอาการวิกฤต และเสียชีวิตลงในเดือน ส.ค.จากปัญหาเกี่ยวกับหัวใจที่เกี่ยวเนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

 

 

ไบรอันให้สัมภาษณ์กับบีบีซีเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ในรายงานตรวจสอบความจริงเพื่อค้นหาว่าข่าวปลอมเกี่ยวกับไวรัสมรณะชนิดนี้ได้สร้างความสูญเสียให้กับผู้คนมากเพียงใด ซึ่งขณะนั้นภรรยาของเขากำลังรักษาตัวโดยใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในโรงพยาบาล

 

ทฤษฎีสมคบคิดที่อันตราย

ก่อนจะเสียชีวิต เอริน ซึ่งเป็นบาทหลวงหญิงในรัฐฟลอริดา มีปัญหาโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว โดยเธอป่วยเป็นโรคหอบหืด และโรคความผิดปกติด้านการนอนหลับ

 

ไบรอันเล่าว่าทั้งคู่ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านสุขภาพที่ทางการประกาศออกมาในช่วงแรกที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด เพราะหลงเชื่อข่าวปลอมและคำกล่าวอ้างผิด ๆ ที่เห็นทางออนไลน์

 

ไบรอันออกไปทำงานขับรถแท็กซี่ตามปกติ และไปรับยาให้ภรรยาโดยที่ไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือสวมหน้ากากอนามัย

  • ไบรอันและเอรินหลงเชื่อข่าวปลอม และทฤษฎีสมคบคิดเรื่องโรคโควิด-19 ทางเฟซบุ๊ก / FACEBOOK

นอกจากนี้พวกเขายังไม่เข้ารับความช่วยเหลือทางการแพทย์ในทันทีที่เริ่มมีอาการป่วยในเดือน พ.ค.ซึ่งในเวลาต่อมาทั้งสองได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19

ไบรอันบอกบีบีซีว่า เขา "น่าจะเชื่อฟัง (ข้อแนะนำด้านสุขภาพ) ตั้งแต่ต้น" และหวังว่าภรรยาจะยกโทษให้เขา

"มันเป็นไวรัสจริง ๆ ที่ส่งผลต่อผู้คนต่าง ๆ กันไป ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ ผมมีชีวิตอยู่แค่ในปัจจุบัน และตัดสินใจให้ดีขึ้นเพื่ออนาคต" ไบรอันกล่าว

"เธอไม่ต้องทรมานอีกต่อไป แต่อยู่ในความสงบ ผมได้ผ่านช่วงเวลาที่คิดถึงเธอ แต่ผมรู้ว่าเธอได้ไปอยู่ในที่ที่ดีกว่าแล้ว"

"มันเป็นเรื่องจริง"

ไบรอันบอกว่าเขาและภรรยาไม่ได้ยึดอยู่กับความเชื่อเรื่องโรคโควิด-19 เพียงเรื่องเดียว แต่มีความเชื่อที่สลับกันไปมาระหว่างเรื่องที่ว่าเชื้อไวรัสนี้เป็นเรื่องหลอกลวง เรื่องที่มันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 5G หรือเชื่อว่ามันเป็นโรคภัยไข้เจ็บจริงแต่ไม่ส่งผลรุนแรง ซึ่งพวกเขาได้รับข้อมูลเหล่านี้มาจากทางเฟซบุ๊ก

"เราคิดว่ารัฐบาลใช้เรื่องนี้เพื่อหันเหความสนใจของพวกเรา" ไบรอันกล่าว

แต่หลังจากเขาและภรรยาล้มป่วยในเดือน พ.ค. ไบรอันได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเพื่ออธิบายว่าเขาหลงผิดเพราะเห็นข้อความเท็จเรื่องโควิด-19 ทางออนไลน์ และโพสต์ของเขาก็ได้รับความสนใจอย่างมาก

"ถ้าคุณต้องออกนอกบ้านขอให้จงใช้สติและไม่หลงผิดอย่างผม เพื่อที่คุณจะไม่ต้องเจอกับเรื่องแบบเดียวกับที่ผมและภรรยาประสบ" ไบรอันระบุทางโซเชียลมีเดีย

FACEBOOK/BRIAN LEE HITCHENS

แพทย์และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอันตรายทางอ้อมที่อาจเกิดจากข่าวลือ ทฤษฎีสมคบคิด หรือข้อมูลผิด ๆ เรื่องสุขภาพที่เผยแพร่ทางออนไลน์ยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะทฤษฎีสมคบคิดต่อต้านการให้วัคซีนที่กำลังแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย

ในขณะที่บริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียระบุว่าได้ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ปรากฏในสื่อของตนแล้ว แต่ฝ่ายวิจารณ์ชี้ว่าจะต้องมีการดำเนินความพยายามให้มากกว่านี้ในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

โฆษกเฟซบุ๊กชี้แจงต่อบีบีซีว่า "เราไม่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลเท็จที่เป็นอันตรายบนสื่อของเรา โดยตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. เราได้ถอดข้อมูลเท็จเรื่องโควิด-19 ที่เป็นอันตรายออกไปกว่า 7 ล้านชิ้น ซึ่งรวมถึงคำกล่าวอ้างถึงการรักษาแบบผิด ๆ หรือคำกล่าวอ้างที่ว่าการเว้นระยะห่างทางสังคมใช้ไม่ได้ผล"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง