งานนี้มีปรี๊ด สตรีหมายเลข1ฝรั่งเศส ฟ้องคนกุข่าว หาว่าเกิดมาเป็นผู้ชาย

สตรีหมายเลข1ฝรั่งเศส - บีบีซี รายงานวันที่ 22 ธ.ค. ว่า นางบริจิตต์ มาครง ภริยาประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เตรียมฟ้องร้องทางกฎหมายเอาผิดเว็บไซต์เผยแพร่ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด กล่าวหาสตรีหมายเลขหนึ่งจริงๆ แล้วเกิดเป็นชาย ก่อนแปลงเพศเป็นผู้หญิง

สตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศสตกเป็นเป้าโจมตีในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากเว็บไซต์ขวาจัดกระพือข่าวลือ ตั้งแต่เมื่อเดือน ก.ค. และมีผู้สมรู้ร่วมคิดแพร่กระจายต่อๆ กัน อ้างว่านางบริจิตต์เกิดเป็นผู้ชาย มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรงเยอซ์ ซึ่งเป็นชื่อที่มีการกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์หลายหมื่นครั้ง

ด้าน นายฌอง อองโนชี ทนายความของนางมาครงกล่าวว่าสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศสยืนยันว่ากำลังเริ่มดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

ทฤษฎีสมคบคิดนี้ลุกลามเป็นไฟลามทุ่งเริ่มจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ต่อต้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง รวมทั้ง กลุ่มขวาจัด กลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน และขบวนการสมรู้ร่วมคิดคิวเอนอน (QAnon)

หนังสือพิมพ์ลิเบ-ราสิยง (Libération) ของฝรั่งเศสแกะรอยพบว่าข่าวโคมลอยเริ่มมาจากบทความในวารสารขวาจัดซึ่งเขียนโดยผู้หญิงชื่อ นาตาชา เรย์ จากนั้น ข่าวลือกระพือเป็นวงกว้างเพราะมีคนกล่าวถึงในยูทูบและมีผู้แชร์ต่อมากมายซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านวัคซีน กลุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องโควิดและกลุ่มขวาจัด

หลายคนสงสัยว่าทำไมนางบริจิตต์ มาครงจึงต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมเพื่อสยบข่าวลือน่าขัน พร้อมเทียบกับกรณีญาติของเอลวิสเคยฟ้องร้องคดีที่เคยกล่าวว่านักร้องคนดังยังมีชีวิตสุขสบายดีและเคยพบเห็นว่ารับประทานแฮมและโจ๊กในบ้านริมถนนเมมฟิสหรือเปล่า

การฟ้องร้องคดีต่อศาลทำให้คนที่เลื่อมในทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเห็นว่าอาจจะมีอะไรในกอไผ่ ไม่อย่างนั้น คงจะไม่ดำเนินการจริงจัง

แต่ในความเป็นจริง ไม่มีหลักฐานว่าใคร ยกเว้นคนที่สติไม่ค่อยดีไม่กี่คนจะเชื่อว่าเรื่องแปลงเพศเป็นเรื่องจริง

นักข่าวและผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพูดเกินจริงในการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตทำให้เรื่องที่กุขึ้นดังเป็นพลุแตก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีใครเชื่อจริงๆ

หนังสือพิมพ์เลอ มงด์ ของฝรั่งเศสระบุว่านักทฤษฎีสมคบคิดของฝรั่งเศสไม่มีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่าให้พูดถึงเพราะขณะนี้ กำลังใกล้การเลือกตั้ง

ขณะที่เรื่องของบริจิตต์เบี่ยงเบนความสนใจได้ในหมู่ผู้ที่เชื่อ QAnon แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่ทำลายความน่าเชื่อถือได้และเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่นางมาครงตกเป็นเป้าโจมตี นับตั้งแต่นายมาครง สามีซึ่งอายุน้อยกว่า 25 ปี ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2560 เพราะก่อนหน้านี้ เธอเคยถูกโจมตีเรื่องความต่างของอายุมาแล้ว

ขณะนี้ ประธานาธิบดีมาครงยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะลงสมัครสมัยที่ 2 หรือไม่ เพียงแต่เป็นการคาดการณ์เท่านั้น แต่ถ้าชิงชัยอีกสมัย จะต้องแข่งขันกับนางวาเลรี เปเครสส์ จากพรรคริพับบิกันซึ่งนิยมฝ่ายขวาและ เอริก เซมมูร์ นักข่าวการเมืองและนักเขียนจากฝ่ายขวาจัด