รีเซต

สหรัฐฯ หวั่นเกิดเหตุรุนแรง หลังคนร้ายบุกบ้านประธานสภาคองเกรส

สหรัฐฯ หวั่นเกิดเหตุรุนแรง หลังคนร้ายบุกบ้านประธานสภาคองเกรส
TNN ช่อง16
1 พฤศจิกายน 2565 ( 13:06 )
46
สหรัฐฯ หวั่นเกิดเหตุรุนแรง หลังคนร้ายบุกบ้านประธานสภาคองเกรส


---ทำร้ายสามี “แนนซี เพโลซี”---


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีชายวัย 42 ปี บุกเข้าบ้านพักในซานฟรานซิสโกของ “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และทำร้ายพอล เพโลซี สามีของเธอวัย 82 ปีด้วยค้อน


คนร้ายบุกเข้าไปเพื่อตามหานางเพโลซี นักการเมืองระดับสูงของพรรคเดโมแครตวัย 82 ปี ซึ่งอยู่ในลำดับที่สองของการขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ในขณะนั้น เพโลซีไม่ได้อยู่ในบ้านพัก แต่ปฏิบัติภารกิจที่กรุงวอชิงตัน ดีซี


ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาคนร้าย ซึ่งมีชื่อว่า เดวิด เดปาเป ในสองข้อหาละเมิดกฎหมายรัฐบาลกลาง คือ ทำร้ายสมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 30 ปี และข้อหาพยายามลักพาตัวเพโลซี ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี


ขณะที่อัยการของซานฟรานซิสโก ตั้งข้อหาอีก 6 ข้อหา ซึ่งรวมถึง ข้อหาพยายามฆ่า และทำร้ายคนชรา โดยอัยการระบุว่า การทำร้ายนั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง 



---วางแผนลักพาตัวประธานสภาฯ---


ด้านตำรวจระบุว่า คนร้ายมีม้วนเทป เชือกสีขาว ค้อน และสายรัด ขณะถูกจับกุม โดยคนร้ายวางแผนจับเพโลซีเป็นตัวประกัน และตั้งใจจะทุบหัวเข่าของเธอหากพบว่าเธอโกหก 


คนร้ายยังกล่าวด้วยว่า หากเพโลซีบาดเจ็บ เธอจะได้นั่งรถวีลแชร์ไปประชุมสภาคองเกรส ซึ่งจะมีการส่งสารไปยังนักการเมืองคนอื่น ๆ ด้วย


แถลงการณ์ของเพโลซี ระบุว่า สามีของเธอกะโหลกศีรษะร้าว ต้องเข้ารับการผ่าตัด และได้รับบาดเจ็บที่มือ รวมถึงแขนข้างขวา แต่มีอาการฟื้นตัวขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องพักฟื้นในระยะยาว


รายงานระบุว่า นอกจากเพโลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการเมืองทรงอิทธิพลสุดของสหรัฐฯ แล้ว ผู้ต้องสงสัยยังจัดทำรายชื่ออีกจำนวนหนึ่ง ที่เขาพุ่งเป้าและอาจก่อเหตุโจมตีอีก


---ทฤษฎีสมคบคิด---


เหตุดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอม 8 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะชี้ชะตาว่าพรรคใดจะได้ควบคุมสภาคองเกรส จุดชนวนความกังวลเรื่องความรุนแรงทางการเมือง 


ขณะที่สำนักข่าว BBC รายงานว่า พบบัญชีผู้ใช้บล็อก เว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ ที่ตรงกับชื่อของผู้ก่อเหตุที่บ้านเพโลซี มีเนื้อหาต่อต้านยิว ปฏิเสธการมีอยู่ของโฮโลคอสต์ และยังเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ขวาจัด ตลอดจนทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด เช่น คิวเอนอนด้วย


นอกจากนี้ เขายังเคยโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้ง และประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับลัทธิขวาจัดและสุดโต่งด้วย


ไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุครั้งนี้ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สำนักสอบสวนกลางหรือ FBI และศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งขาติ ได้ออกประกาศ เตือนว่า ผู้ที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด อาจก่อเหตุรุนแรงช่วงการเลือกตั้งกลางเทอม


บรรดาสื่อสหรัฐฯ เช่น NPR และ NBC News ที่ได้รับเอกสารดังกล่าว พบว่า เอกสารเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในชั้นความลับ แต่ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่เท่านั้น และมีการเตือนถึง domestic violent extremism หรือ DVE ซึ่งหมายถึงลัทธิสุดโต่งหัวรุนแรงภายในประเทศ


---เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ---


หนังสือเตือนระบุว่า มีการประเมินแล้วว่า ความเข้าใจที่ว่ามีการโกงการเลือกตั้ง อาจนำไปสู่การวางแผนก่อเหตุรุนแรง และความพยายามในการทำให้ความรุนแรงนั้นชอบธรรม ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมและหลังการเลือกตั้ง ซึ่งภัยคุกคาม DVE ที่เป็นไปได้นั้น คือ การก่อเหตุตัวคนเดียว


แม้หนังสือเตือนให้เฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงจากผู้มีแนวคิดสุดโต่งในทุกอุดมการณ์ก็ตาม แต่เอกสารย้ำว่า ผู้ที่มีแนวโน้มก่อเหตุ คือ ผู้ที่เชื่อว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ซึ่งมักหมายถึงคนที่ชื่นชอบพรรครีพับบลิกัน โดยผลสำรวจล่าสุดของ NBC พบว่า ชาวรีพับบลิกันราวสองในสาม ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความชอบธรรม


ด้านหน่วยข่าวกรองของกรมตำรวจมหานครนิวยอร์ก ออกหนังสือเตือนในลักษณะเดียวกัน ว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนจนถึงต้นตุลาคม ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่มีแนวคิดขวาสุดโต่ง คลั่งชาติ และผู้ที่เชื่อในลัทธิคิวเอนอน เรียกร้องให้ผู้สนับสนุน ท้าทายการเลือกตั้ง ยั่วยุให้ก่อเหตุรุนแรง ใช้วิธีคุกคาม และทำลายเครื่องมือในการเลือกตั้ง หากพวกเขาเห็นว่ามีการโกงตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ


โดยมีการยกตัวอย่าง การโพสต์ข้อความ เช่น เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ใน Gab สื่อสังคมออนไลน์ ที่ระบุว่า “ต้องประหารชีวิตสำหรับการโกงการเลือกตั้ง” และ “จับผู้ทรยศแขวนคออีกครั้ง”


ขณะเดียวกัน ยังพบข้อความของกลุ่มขวาจัดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่กระตุ้นให้สมาชิกไปร่วมงานหาเสียงทางการเมืองต่าง ๆ ด้วยปืนผี หรือ ghost gun แล้วจัดการยิงเสีย

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง 

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง:

12


ข่าวที่เกี่ยวข้อง