รีเซต

วอน ร.ฟ.ท.ฟังเสียง ปชช. หลังสั่งงดบริการ 57 ขบวน เริ่มพรุ่งนี้ ชี้คนคิดไม่ได้นั่ง คนนั่งไม่ได้มีส่วนคิด

วอน ร.ฟ.ท.ฟังเสียง ปชช. หลังสั่งงดบริการ 57 ขบวน เริ่มพรุ่งนี้ ชี้คนคิดไม่ได้นั่ง คนนั่งไม่ได้มีส่วนคิด
มติชน
25 มกราคม 2564 ( 12:49 )
107
วอน ร.ฟ.ท.ฟังเสียง ปชช. หลังสั่งงดบริการ 57 ขบวน เริ่มพรุ่งนี้ ชี้คนคิดไม่ได้นั่ง คนนั่งไม่ได้มีส่วนคิด

จากกรณี นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ออกมาระบุว่า ด้วย ศบค.มีนโยบายขอความร่วมมือให้ประชาชนหลีกเลี่ยง หรือชะลอการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ร.ฟ.ท.จึงปรับการให้บริการเดินรถใหม่ให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของ ศบค.

 

โดยงดการให้บริการขบวนรถเชิงสังคม ได้แก่ ขบวนรถธรรมดา ขบวนรถท้องถิ่น และขบวนรถชานเมืองที่ไม่ได้วิ่งให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน จำนวน 57 ขบวน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมเป็นต้นไป

การปรับเลี่ยนดังกล่าว ร.ฟ.ท.ระบุว่า ได้คำนึงถึงความเหมาะสมในการให้บริการแก่ประชาชน พิจารณางดเดินรถเฉพาะเส้นทางที่มีผู้ใช้บริการน้อย หรือเป็นขบวนรถที่มีความจำเป็นไม่มากต่อประชาชน และไม่ได้วิ่งให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน

 

อ่านข่าว : ร.ฟ.ท.ปรับให้บริการขบวนรถเชิงสังคมชั่วคราว หวังคุมโควิดระลอกใหม่ เริ่ม 26 ม.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากประชาชนที่เดินทางด้วยรถไฟทราบข่าวดังกล่าวได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มาตรการดังกล่าวของ ร.ฟ.ท.ทางเพจเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวนมาก โดยเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด บางขบวนมีนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนคนในพื้นที่ใช้บริการจำนวนมาก หากหยุดให้บริการจะเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง

 

ความเห็นบางส่วนระบุว่า

“สงสัยช่วงปลายปีต้นปีหลับอยู่ เพิ่งมาตื่นตอนที่โควิดเริ่มดีขึ้น ไม่งดไปตั้งแต่แรกละครับ มางดอะไรตอนนี้ บางจังหวัดเค้าเริ่มดีเริ่มเปิดกันแล้ว ความคิดช้าจริงๆ ปวดตับ

“แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ท่านรู้ได้ยังไงว่ามีประชาชนใช้บริการน้อย ขบวนที่งดท่านรู้ไหม นักเรียนนักศึกษา และคนในท้องถิ่นเขาใช้ประจำ ท่านผลักภาระไปให้ประชาชนรับกรรม เห็นทำอย่างนี้มาหลายขบวนละ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ก็ยกเลิกขบวนรถท้องถิ่นที่มีคนใช้บริการหนาแน่น แต่บอกไม่มีคนใช้บริการ คือ มิน่าถึงได้ขาดทุนซ้ำซาก เพราะบริหารงานไม่เป็น ว่าแต่เอาใครหรือตัวอะไรมาคิดมาบริหาร ทำดีต้องชม แต่ทำ…แบบนี้ต้องด่าครับ

 

“งดอีกแล้ว ลำบากมาก คราวก่อนก็งด 105/106 ดับอนาถยังไม่กลับมา เช้าไปทำงานเคยขึ้นที่สถานีอำเภอ ต้องเปลี่ยนไปขึ้นที่บ้านภาชี ขี่รถแต่เช้ามืด เพราะงานเลิกสองทุ่ม สมัยก่อนมีรถ 105 จอดสถานีที่อำเภอ แต่มางดเฉย ต้องเปลี่ยนมาขึ้นอีกที่นึง ขอนะอย่างด 133 เลย ถ้างดเดือดร้อนมาก จากการเดินทางจากเดิมวันละไม่เกิน 100 บาท จะต้องใช้รถตู้และต่อไปอีก วันละ 300 บาทกว่าๆ แน่ / รฟท. คิดหน่อยนะทำอะไรก็ได้ที่ประชาชนเค้าไม่เดือดร้อนการเดินทางนะ คนมากคนน้อยก็บริการของรัฐเพื่อประชาชนไม่ใช่เหรอ โควิดจริงแต่ในชีวิตก็ไม่ได้

 


“ข.489/490 อยู่ในจังหวัด กระทบนักเรียน 300-400 คน งดแค่ ส.อา.หยุดราชการใด้ไหม, เห็นว่าโรงเรียนหลายที่จะเริ่มเปิดเรียนในโรงเรียน 1 กุมภา ผู้โดยสารหลายๆ ขบวนก็เริ่มมีบ้างแล้ว มางดเดินรถเอาเวลานี้ น่าจะเป็นผลร้ายมากกว่านะครับ ถ้าก่อนหน้านี้งดไปก่อนคงไม่มีผลกระทบอะไรมาก

“รถไฟลดขบวนรถ ตู้เท่าเดิม ในขณะที่หลายๆ หน่วยงานกำลังจะเริ่มกลับมาทำงานปกติ ตกลงช่วยลดโรค หรือเพิ่มโอกาสการติดโรคครับ? ทำไมไม่มีนโยบายรถซอยแทน? แบบ207/208 นร ขึ้นช่วง ลบ-นว-ลบ ก็จัดให้วิ่งแค่นั้น เป็นรถดีเซลรางก็ได้ ลดค่าใช้จ่าย ลดโรคด้วย

“อันนี้คือผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดีแล้วใช่ไหมครับ ไม่รู้ว่าคิดรอบด้านหรือเปล่า ที่บอกว่างดรถเชิงสังคมที่ไม่ใช่รถที่วิ่งในเวลาเร่งด่วน แต่เหมารวมงดรถท้องถิ่นที่เที่ยวเช้าเที่ยวเย็น หรือแม้กระทั่งรถธรรมดาที่วิ่งเที่ยวเช้าเที่ยวเย็นที่บริการคนที่เดินทางไปทำงาน ในเวลาที่สถานการณ์ไม่ปกติ รถมันควรมีมากเพื่อลดความแออัดไม่ใช่งดรถ รถท้องถิ่นงด คนก็ยังต้องเดินทางไปทำงานไปขายของ (หรือไปเรียน) ก็ไปนั่งรถตู้รถเมล์ แออัดอยู่ดีไหม การงดรถ ไม่ใช่หมายถึงคนจะหยุดทำมาหากินครับ คนคิดไม่ได้นั่ง คนนั่งไม่ได้มีส่วนคิด

“ถามความเห็นผู้โดยสารหรือยังครับ คนที่ขึ้นขบวนชานเมืองไปทำงานไป-กลับทุกวัน เค้าจะทำยังไง หรือนั่นเป็นธุระที่ผู้โดยสารต้องหาทางแก้ไขเอง?? เอาจริงๆ สถานการณ์มันก็ค่อยๆ ดูดีขึ้นแล้วนะครับ ทำไมเพิ่งมาประกาศงดขบวนวิ่งเอาตอนนี้ ช้าอะไรครับ ทั้งระบบคนทั้งเครื่องจักร มันควรได้รับการพัฒนาได้แล้วครับ”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง