สธ.แจงฉีดแอสตร้าเซนเนก้า มีไข้เรื่องปกติ-เจอได้ 30%
ข่าววันนี้ 10 มิ.ย.64 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยได้รับวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม 1 ล้านโดส รวมเป็น 7.5 ล้านโดสจาก 10 ล็อต โดยจะตรวจวิเคราะห์โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจใบรับรองการผลิตจากจีนเพิ่มเติม ทั้งนี้ เราฉีดวันละ 4 แสนโดส ดังนั้น 1 ล้านโดสจะใช้เวลาฉีดเพียง 3 วัน จึงต้องพยายามหาวัคซีนให้มากขึ้น อย่างซิโนแวคจากที่สั่งเดือนละ 3 ล้านโดส อาจต้องเจรจาเพื่อหามาให้มากขึ้น เช่น เป็น 5 ล้านโดส
สำหรับกรณีข่าวพิจารณาเพิ่มวัคซีนให้กทม.นั้น ขอชี้แจงว่าการจัดสรรต้องดูปริมาณวัคซีน ความต้องการฉีด และศักยภาพของการฉีดในพื้นที่ โดยต้องทำให้ทั้ง 3 ส่วนมีความสอดคล้องกันถึงจะฉีดวัคซีนได้อย่างคล่องตัว ซึ่งวันนี้เรามีวัคซีนจำกัด การกระจายก็มีสูตรอยู่ ซึ่งพยายามให้ตามแผนที่ ศบค.ให้มา
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการใช้วัคซีนซิโนแวคในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ต้องรอทางการจีนขึ้นทะเบียนก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาว่า จะต้องใช้ปริมาณโดสเท่าไร เพราะร่างกายเด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ ต้องมีการศึกษาให้แน่ชัด รวมถึงจำนวนครั้งที่ฉีด และระยะห่างระหว่างเข็ม หากองค์การอนามัยโลกศึกษาเอกสารของจีนและให้การรับรองก็เป็นเรื่องง่ายที่อย.ไทยจะพิจารณาอนุมัติเพิ่มเงื่อนไขหรือข้อบ่งชี้ให้ให้ซิโนแวคในกลุ่มอายุ 3 ปี ขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตาม แม้องค์การอนามัยโลกยังไม่พิจารณา อย.ไทยก็พิจารณาก่อนได้ เหมือนที่เราขึ้นทะเบียนก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะรับรอง ส่วนขณะนี้ใกล้จะเปิดเทอม จึงกำลังเร่งฉีดในกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำหรับภาพรวมการปูพรมฉีดวัคซีนจำนวนมากทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. สิ่งสำคัญคือการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ แต่การฉีดวัคซีนจำนวนมากต่อวันย่อมมีข้อกังวลว่าจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ซึ่งก็มีรายงานมาเป็นลำดับ แต่ต้องมีการพิสูจน์ว่าอาการที่เกิดขึ้นเกิดจากวัคซีนจริงหรือไม่ เช่น การเสียชีวิตต้องพิสูจน์ บางคนมีโรคประจำตัว มีโรคหัวใจ ดังนั้นอาจจะเป็นเหตุแห่งสุขภาพเดิมหรือไม่
ทั้งนี้ จากการฉีด 3-4 วันที่ผ่านมา ไม่มีปัญหา ส่วนที่ว่าฉีดแอสตราเซเนกาแล้วมีอาการต่างๆ เช่น ไข้ เป็นต้น ไม่ใช่กลุ่มอาการใหม่ แต่เป็นกลุ่มอาการเดิมที่มีการรายงาน โดยไข้พบได้ 30% ซึ่งถือเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกาย เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย แต่เมื่อพักและรับประทานยา 24-48 ชั่วโมงก็หาย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ามีไข้แล้วแปลว่ากระตุ้นภูมิดี คนไม่มีไข้ก็มีภูมิขึ้นดีได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ส่วนที่เจออาการไข้ในคนหนุ่มสาวมากกว่าคนสูงอายุ เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังพบว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดได้
เมื่อถามว่าขณะนี้หลายพื้นที่ประชาชนไปฉีดวัคซีนตามคิว แต่ปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนของซิโนแวค ยืนยันจะฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยตอนนี้เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพ มีความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ หากได้สิทธิในการฉีดวัคซีนแล้วไม่อยากให้ประชาชนเลือกยี่ห้อ ขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ฉีดวัคซีนชนิดใด ส่วนเรื่องวีไอพีได้กำชับให้หน่วยบริการฉีดตามลำดับ ดำเนินการให้ถูกต้อง
เมื่อถามถึงกรณีมีนักวิชาการออกมาแนะนำให้ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็ม 2 เร็วขึ้น นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็ม 1 มีสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นประมาณ 70-80% แล้วค่อยฉีดเข็ม 2 ต่อใน 16 สัปดาห์ โดยที่ภูมิคุ้มกันไม่ได้ลดลง แสดงว่ามีภูมิที่ป้องกันการป่วย อาการรุนแรง และเสียชีวิตได้
ข่าวเกี่ยวข้อง :
- เตรียมตัวให้พร้อม! ก่อนเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19
- เช็ก! ข้อปฏิบัติที่ต้องทำ “หลังฉีดวัคซีนโควิด-19”
- ปวดหัวไมเกรนฟังทางนี้! กินยาไมเกรน ก่อน-หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างไรบ้าง
- ห้ามกิน-ดื่มอะไร ก่อนไปฉีดวัคซีนโควิด-19
- เปิดจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตน ม.33 มีที่ไหนบ้างเช็กเลย!
- ต้องเตรียมตัว! ก่อนฉีด - วันฉีด - หลังฉีดวัคซีนโควิดอย่างไรบ้าง?