รีเซต

"ศรีลังกา" เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากวิกฤตเศรษฐกิจจนโครงสร้างทั้งประเทศล่มสลาย

"ศรีลังกา" เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากวิกฤตเศรษฐกิจจนโครงสร้างทั้งประเทศล่มสลาย
TNN ช่อง16
10 กรกฎาคม 2565 ( 14:38 )
169
"ศรีลังกา" เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากวิกฤตเศรษฐกิจจนโครงสร้างทั้งประเทศล่มสลาย

วันนี้ (10 ก.ค.65) ปีเตอร์ บรูเออร์ เจ้าหน้าที่อาวุโส และมาซาฮิโระ โนซากิ คณะทำงานให้ความช่วยเหลือศรีลังกา ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในแถลงการณ์ว่า กำลังติดตามสถานการณ์ในศรีลังกาอย่างใกล้ชิด และหวังว่าวิกฤตทางการเมืองจะคลี่คลายลงในเร็ววัน เพื่อให้การเจรจากู้ยืมเงินที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่กลับมาเดินหน้าได้

ทั้งนี้ ประชาชนจำนวนมากได้รวมตัวประท้วงขับไล่ผู้นำรัฐบาล โดยบุกเข้าไปในบ้านพักประธานาธิบดีโคฐาภยะ ราชปักษะ และจุดไฟเผาบ้านพักของนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ซึ่งทั้งคู่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชนที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายในรอบ 70 ปี

IMF ได้สรุปการเจรจาระดับนโยบายกับนายกรัฐมนตรีวิกรมสิงเห ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังด้วย และยังมีประเด็นด้านการเงินบางอย่างที่ต้องแก้ไข ซึ่งหากสถานการณ์คลี่คลายก็จะหารือกันทางเทคนิคต่อไป

แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า IMF มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่มีต่อประชาชนศรีลังกา โดยเฉพาะกลุ่มคนยากจนและกลุ่มเปราะบาง พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ IMF ที่จะสนับสนุนศรีลังกาในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2491 และจำเป็นต้องได้รับเงินอย่างน้อย 4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือกับปัญหาการขาดแคลนทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างรุนแรง

อัตราเงินเฟ้อของศรีลังกาพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 50 ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ค่าเงินรูปีศรีลังการ่วงลงสู่ระดับ 360 รูปีต่อ 1 ดอลลาร์ จาก 200 รูปี

IMF จะอนุมัติความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการหลังจากศรีลังกาหารือเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม

ก่อนหน้านี้  รัฐสภาแห่งศรีลังกาออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา เตรียมลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 13 ก.ค. นี้ 

ขณะที่นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ก็จะขอลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน  เพื่อให้มีการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น ด้วยเหตุนี้ รัฐสภาและรัฐบาลขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและเคารพกฎหมาย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลุกลามบานปลายเป็นการที่มวลชนสามารถฝ่าการปะทะและแนวรั้วกั้นของเจ้าหน้าที่ จนเข้าไปภายในบ้านพักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี ตลอดจนอาคารรัฐสภาหลังเก่า ที่ตั้งอยู่ในเขตใจกลางกรุงโคลัมโบได้สำเร็จ และมีการจุดไฟเผาทำลายบ้านพักของทั้งคู่ด้วย 

สถานีโทรทัศน์ศรีลังกา และสื่อออนไลน์ แพร่ภาพผู้ประท้วงจำนวนมากฝ่าแนวรักษาความปลอดภัยเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานและบ้านพัก หลายคนเข้าไปกางป้ายประท้วงจากระเบียง บ้างลงไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอพยพคณะผู้นำศรีลังกาและครอบครัวออกไปยังสถานที่แห่งอื่นล่วงหน้าแล้ว

แม้ยังไม่มีการแสดงท่าทีอย่างเป็นทางทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีเรื่องการลาออกจากตำแหน่ง แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งของสถานการณ์ในศรีลังกา ซึ่งทวีความตึงเครียดต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปีนี้ 

จากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ จนโครงสร้างทั้งหมดล่มสลาย ถึงขั้นไม่มีเงินชำระหนี้ เกิดวิกฤตข้าวยากหมากแพง รวมถึงขาดแคลนเชื้อเพลิง 

รัฐบาลต้องสั่งหยุดขายน้ำมันให้กับยานพาหนะส่วนบุคคล  สั่งปิดสถานศึกษาและหน่วยราชการเพื่อประหยัดน้ำมัน



ภาพจาก AFP


ข่าวที่เกี่ยวข้อง