'กมธ.ที่ดิน' กัดไม่ปล่อย ส่งข้อมูลให้สอบ เอกสารสิทธิที่ดิน 'ศรีพันวา'
'กมธ.ที่ดิน' กัดไม่ปล่อย ส่งข้อมูลให้“ดีเอสไอ-กรมป่าไม้-กรมที่ดิน” สอบต่อที่ดิน 'ศรีพันวา' ออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ต.ค.64 ที่รัฐสภา นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงความคืบหน้าของการถือครองที่ดินของโรงแรมศรีพันวา ที่ จ.ภูเก็ต ว่า กมธ.ฯได้เชิญตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมป่าไม้ และกรมที่ดิน มาให้ข้อเท็จจริง
โดยกมธ.มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงซึ่งตรงกับดีเอสไอ คือเรื่องของพื้นที่ซึ่งไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์โดยมีการตรวจสอบแทนที่แอล 708 ซึ่งเป็นแผนที่ทหารพบว่าในช่วงที่มีการออกเอกสารสิทธิ พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ป่าทั้งแปลง ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ ซึ่งข้อมูลระหว่างกมธ.และดีเอสไอถือว่าตรงกัน โดยทางกมธ.เห็นว่าควรตรวจสอบเพิ่มเติม
นอกจากนี้กมธ.จะส่งข้อมูลให้ดีเอสไอเพื่อสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมคือวิธีการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ที่นำมาออกเป็นเอกสารสิทธิมีความคาดเคลื่อนไม่ตรงกับเอกสารสิทธิที่ออกใหม่ ซึ่งหมายความว่า ส.ค.1 ที่นำมาออกเป็นเอกสารสิทธิอาจจะเป็นส.ค.1 ที่ไม่ตรงจุด นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของตัวส.ค.กับเอกสารสิทธิที่ออกมาใหม่นั้น รูปแปลงไม่ตรงกันและมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไม่ตรงกับส.ค.เดิม รวมถึงมีเนื้อที่ที่เพิ่มไปมากกว่าครึ่งของส.ค.เดิมที่มีอยู่ จึงต้องการที่จะให้ทางดีเอสไอสอบเพิ่มเติม
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวแทนกรมป่าไม้ได้ชี้แจงว่า จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 1 แปลง ตามที่ดีเอสไอได้ทำหนังสือไปถึงกรมป่าไม้ที่มีสภาพเป็นสระน้ำ หากไม่มีเอกสารสิทธิมาแสดงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งประเด็นการครอบครองพื้นที่ป่าทั้งหมดว่าเป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ 2484 หรือไม่
รวมถึงชี้แจงว่ายังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเจ้าหน้าที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบ ฉะนั้นทางกมธ.จะส่งเรื่องนี้ให้ทางกรมป่าไม้ตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 หรือไม่ ซึ่งทางกมธ.เห็นว่าควรจะต้องมีการตั้งกรรมการในระดับส่วนกลาง ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ทุกแปลง ว่าเป็นไปตามที่ดีเอสไอและกมธ.เสนอหรือไม่ว่าเป็นป่าตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484
ส่วนกรมที่ดิน ยืนยันว่าได้สั่งการให้สำนักงานในระดับพื้นที่ในจ.ภูเก็ตไปตรวจสอบแล้ว แต่ทางกมธ.ไม่เชื่อว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ถูกต้องสมบูรณ์ ดังนั้นกมธ.จึงเห็นควรว่าจะต้องตั้งกรรมการจากส่วนการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าถูกต้องหรือไม่