ส.ป.ก. วัดใจรัฐบาล! จริงจังแค่ไหน กับภารกิจทวงคืนที่ดิน
"ที่ดินคือชีวิต" - วลีที่สะท้อนความสำคัญของที่ดินต่อเกษตรกรไทย แต่เมื่อ "ทุน" เข้ามาครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. อย่างไม่ถูกต้อง จึงเกิดคำถามว่าการทวงคืนที่ดินจากผู้มีอิทธิพลจะเป็นไปได้จริงหรือไม่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกรณีรีสอร์ตที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. อย่างไม่ถูกต้อง
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า การสืบสวนร่วมกันระหว่างตำรวจ ป.ป.ช. และ ปปท. พบหลักฐานการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิ์โดยข้าราชการระดับสูง รวมถึงพบเส้นทางการเงินที่น่าสนใจ มีการโอนเงินจากบริษัทที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบไปยังบัญชีของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง จำนวน 10 ล้านบาท แบ่งโอนครั้งละ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ชวนให้ตั้งคำถามมากมาย เช่น การขอย้ายของเจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่หลังการตรวจสอบ และการออกสัญญาเช่าแทนที่จะดำเนินคดี ซึ่งถูกมองว่าเป็น "การเปลี่ยนดำเป็นขาว"
แม้ว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ จะยืนยันชัดเจนว่า "ใครก็ตามที่ทำไม่ถูกกฎหมาย" จะต้องถูกดำเนินการ แต่สิ่งที่สังคมจับตามองคือการบังคับใช้กฎหมายจะเป็นมาตรฐานเดียวกันจริงหรือไม่ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล
การทวงคืนที่ดิน ส.ป.ก. จากนายทุนกำลังเป็น "บททดสอบ" สำคัญของรัฐบาลในหลายมิติ ทั้งความจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย ความเป็นธรรมในการจัดสรรที่ดินคืนสู่เกษตรกร และการจัดการกับผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าจะมีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงที่มาของเงินจำนวนดังกล่าว
เมื่อ "อำนาจรัฐ" ปะทะกับ "อิทธิพลทุน" ผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร? และที่สำคัญที่สุด เกษตรกรผู้ยากไร้จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่? คำตอบอาจจะปรากฏชัดในเร็วๆ นี้ เมื่อการสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้น
ภาพ ส.ป.ก.