รีเซต

ซีพีดันพลังคนรุ่นใหม่ไทย สานต่อภารกิจเปลี่ยนโลกอย่างยั่งยืน หลัง OYW Summit 2025 ปิดฉากงดงาม

ซีพีดันพลังคนรุ่นใหม่ไทย สานต่อภารกิจเปลี่ยนโลกอย่างยั่งยืน หลัง OYW Summit 2025 ปิดฉากงดงาม
TNN ช่อง16
20 พฤศจิกายน 2568 ( 11:57 )
7

One Young World Summit 2025 เวทีผู้นำเยาวชนระดับโลก ปิดฉากลงอย่างงดงามที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี พร้อมสร้างแรงกระเพื่อมสำคัญในรูปแบบ “Call to Action” สำหรับคนรุ่นใหม่ทั่วโลก รวมถึงตัวแทนเยาวชนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 3–6 พฤศจิกายน 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 เพื่อร่วมกำหนดทิศทางอนาคตของโลกอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Brave the Future for a Better Tomorrow – กล้าก้าวสู่อนาคต เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” 

โดยการประชุมจัดขึ้น ณ Messe Munich โดยมีเยาวชนจาก 196 ประเทศ รวมกว่า 2,000 คน ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดใน 5 ประเด็นสำคัญของโลก ได้แก่ Circular Economy, Anti-Hate, Responsible Tech, Education และ Peace & Security พร้อมรับฟังทิศทางใหม่จากผู้นำองค์กรระดับนานาชาติ ผู้บริหารจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมและสันติภาพ  อาทิ สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน ดีเตอร์ ไรเตอร์ นายกเทศมนตรีเมืองมิวนิก, นาธาเลีย ฟอน จากซีเมนส์, อิลกา ฮอร์สต์ไมเออร์ จาก BMW รวมถึงนักแสดงอย่าง เทอร์รี ครูวส์, อัดโวอา อาโบอาห์ นางแบบและนักแสดงชาวอังกฤษ, แคท เกรแฮม ศิลปินชาวอเมริกัน และ มาเรีย เรสซ่า เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ซึ่งช่วยเปิดมุมมองต่อบทบาทของคนรุ่นใหม่ในฐานะพลังขับเคลื่อนโลกในยุคเปลี่ยนผ่าน

ดร.เนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้ช่วยบริหารสำนักประธานคณะผู้บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศด้านความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงความสำคัญของเวทีนี้ว่า “เครือซีพีสนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ‘กล้าคิด กล้าทำ และกล้าเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น’ การส่งตัวแทนเข้าร่วม One Young World Summit ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 คือสัญญาณชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของซีพีในการเปลี่ยน ‘แรงบันดาลใจ’ ให้เป็น ‘การลงมือทำจริง’ ผ่าน Call to Action ที่ผลักดันให้คนรุ่นใหม่เดินหน้าต่อยอดโครงการด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากได้ความรู้และแรงบันดาลใจจากการประชุมกลับมา เครือซีพี จึงได้พัฒนาโครงการภายในต่าง ๆ เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ ได้คิด ออกแบบ ทดลอง และนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกได้จริง ทั้งในระดับองค์กร สังคม และประเทศ ตามหลักสามประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ - เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน และเพื่อองค์กร”  

หนึ่งในสารที่ทรงพลังที่สุดในการประชุมมาจาก สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน ซึ่งเป็นผู้นำที่มีบทบาทด้านการส่งเสริมสิทธิสตรี การศึกษา สุขภาพ และพลังเยาวชน ได้ยกประเด็นเรื่องคุณค่าของความเป็นมนุษย์ บนเวทีไว้ว่า “ความเกลียดชังไม่ได้เริ่มต้นจากระเบิดหรืออาวุธ แต่มาจากคำพูดที่ค่อย ๆ ลดทอนความเป็นมนุษย์ จนสังคมมองข้ามคุณค่าของชีวิต และเมื่อความเฉยชายิ่งเติบโตในจิตใจ ความอยุติธรรมก็ยิ่งขยายวงกว้าง ในยุคที่ AI กำลังก้าวขึ้นมาแทนที่ความสัมพันธ์ของมนุษย์ เราจึงต้องปกป้องความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และเห็นอกเห็นใจต่อกันมากกว่าที่เคย คนรุ่นใหม่ทั่วโลกต้องส่งเสียงให้ชัดว่าเทคโนโลยีต้องเดินคู่ไปกับศีลธรรมและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เพราะความหวังไม่ใช่แค่ความฝัน แต่คือความกล้าที่จะยืนหยัดต่อความถูกต้อง กล้าตั้งคำถามกับความอยุติธรรม และรักษาความเป็นมนุษย์ของเราไว้”

ขณะที่ มาเรีย เรสซ่า นักข่าวชาวฟิลิปปินส์-อเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ปี 2021 ได้กล่าวถึงความท้าทายในยุคที่ข้อมูลและเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกว่า “เรากำลังอยู่ในยุคที่ข้อมูล ข่าวสาร และ AI ถูกใช้เพื่อควบคุมความคิดของผู้คน เราต้องลุกขึ้นปกป้องความจริงซึ่งเป็นรากฐานของความไว้วางใจ คนรุ่นใหม่อย่าเป็นเพียงผู้เสพข้อมูล แต่จงเป็นผู้ตั้งคำถาม เทคโนโลยีไม่ใช่ศัตรู หากเรารู้จักใช้อย่างมีจริยธรรม และร่วมกัน ‘Hold the Line’ เพื่อปกป้องพื้นที่ของความจริง” ซึ่งสารดังกล่าวได้ตอกย้ำ “Call to Action” ของคนรุ่นใหม่อย่างชัดเจน นั่นคือการนำความรู้และแรงบันดาลใจจากเวทีโลกกลับมาต่อยอดเป็นการลงมือทำจริง เพื่อยกระดับองค์กร ชุมชน และสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ตลอดการประชุม ตัวแทนเยาวชนจากเครือซีพีทั้ง 20 คน ได้รับโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้เข้าร่วมจากหลายประเทศทั่วโลก พร้อมนำบทเรียนกลับมายกระดับการทำงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน เทคโนโลยี การศึกษา การลดความขัดแย้ง และการต่อต้านความเกลียดชังเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม

ในวาระ Circular Economy นางสาวธรรมิกา รัตนสุวรรณชาติ จากทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเวทีนี้คือคำว่า ‘Waste is Opportunity’ ขยะไม่ใช่แค่ของเสีย แต่อยู่ที่ว่าเรามองมันอย่างไร ในการพูดคุยกับเพื่อนจากหลายประเทศ พบว่าทุกคนกำลังพยายามเปลี่ยนมุมมองของคำว่า ‘ขยะ’ ให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรม บางประเทศใช้ของเหลือจากการเกษตรมาสร้างพลังงานสะอาด บางแห่งนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ในรูปแบบใหม่ ทั้งหมดนี้ คือบทเรียนว่าการเปลี่ยนแปลงเริ่มจากความคิดสร้างสรรค์ ถ้าเรามองเห็นโอกาสในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม โลกก็จะมีทางออกมากกว่าที่คิดไว้เสมอ”

ด้าน Education นางสาวรำไทย มาคะเซ็น จาก ซีพี ออลล์ แบ่งปันประสบการณ์จากการเข้าร่วมเวิร์คช็อปว่า “การศึกษาในยุคของ AI ต้องปรับบทบาทอย่างเร่งด่วน ‘มนุษย์จะไม่ถูกแทนที่ด้วย AI แต่จะถูกแทนที่ด้วยคนที่ใช้ AI เป็น’ การศึกษาในอนาคตต้องไม่หยุดอยู่แค่การสอนให้เก่ง แต่ต้องสอนให้คิดเป็น รู้เท่าทัน และกล้าที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสังคม”

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ Peace & Security นางสาวรัชพร ศิริพงษ์ จากสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ สะท้อนว่า “การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระดับโลกไม่อาจทำได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและทุกช่วงวัย ผ่านแนวคิด System Thinking หรือการมองปัญหาอย่างเป็นองค์รวม รวมถึงแนวคิด Shared Leadership และ Radical Collaboration ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมมือกันอย่างเท่าเทียม โดยสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือแนวคิด Positive Disruption หรือ “การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก” ซึ่งหมายถึงการรื้อระบบเก่าและสร้างระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพและความเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำเยาวชนจากกว่า 190 ประเทศ ภายใต้ประเด็น “Human Security” ที่ตนเองให้ความสนใจ ซึ่งช่วยเปิดมุมมองให้เห็นประเด็นด้านสันติภาพและความมั่นคงในมิติที่ลึกซึ้งและรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ด้าน Anti-Hate นางสาวภูริชญา สุวรรณศรี จากธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ (CPCRT) ระบุว่า “สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้คือพลังของมนุษยธรรม ความไว้วางใจ ความเคารพ การยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และ ‘Empathy – ความเห็นอกเห็นใจ’ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เทคโนโลยีไม่อาจทดแทนได้ และเป็นหัวใจสำคัญของการลดความเกลียดชังในสังคมยุคปัจจุบัน”

ในประเด็น Responsible Tech นางสาวจิณต์ธญา โภคาวสิทธิ์วรกุล จากซีพีเอฟ เล่าว่า “การมา One Young World Summit 2025 ครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ “เปิดโลก” อย่างแท้จริง เพราะนอกจากได้พบปะและแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำเยาวชนจากทั่วโลกแล้ว ยังได้เห็นแนวคิดและโครงการที่น่าสนใจหลากหลาย โดยเฉพาะด้าน AI ซึ่งแต่ละประเทศมีการนำมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์และแตกต่างกันไป เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองอยากนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับกลับไปต่อยอดเพื่อพัฒนาประเทศและองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

แม้ว่าการประชุมปิดฉากลงแล้วที่ BMW Welt Munich ท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพและความหวัง แต่สำหรับตัวแทนคนรุ่นใหม่จากเครือซีพี นี่คือ “จุดเริ่มต้นของการลงมือทำจริง” พวกเขาจะนำแนวคิดและแรงบันดาลใจจากเวทีระดับโลกกลับมาสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ชุมชน และประเทศชาติ เพื่อร่วมขับเคลื่อนโลกให้ดียิ่งขึ้น และเตรียมส่งต่อพลังนี้ให้ตัวแทนเยาวชนรุ่นต่อไปบนเวที One Young World Summit 2026 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ในปีหน้า

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง