รีเซต

MTC คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น บล.บัวหลวงให้เป้า 58 บ.

MTC คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น บล.บัวหลวงให้เป้า 58 บ.
ทันหุ้น
10 ตุลาคม 2567 ( 14:10 )
13

#MTC #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.บัวหลวง

 

MTC เดินหน้าสู่ฐานกำไรสูงสุดใหม่ต่อ

บล.บัวหลวงวิเคราะห์หุ้น MTC คาดว่า MTC จะรายงานกำไรสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/67 และ 4/67 จากการขยายตัวของสินเชื่อ ในกลุ่มการเงินรายย่อยที่บล.บัวหลวงติดตาม MTC เป็นหุ้นเดียวที่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้น บล.บัวหลวงจึงคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2567

 

คุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/67

อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยลดลงเล็กน้อยจาก 90.7% ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2567 มาอยู่ที่ 89.6% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. เนื่องจากธนาคารเข้มงวดการตรวจสอบเครดิตสำหรับการขอสินเชื่อใหม่ แม้ว่าอัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะยังคงสูงกว่าระดับก่อนโควิด ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 80% แต่บล.บัวหลวงคาดว่า MTC จะมีคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในครึ่งปีหลังของปี 2567 โดยตั้งแต่ปี 2566 MTC มุ่งเน้นไปที่การปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ ซึ่งมีความเสี่ยงเครดิตที่น้อยกว่าการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นคุณภาพเครดิตของสินเชื่อใหม่จึงดีกว่า ทำให้อัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมของ MTC ปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/66

 

ข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ไตรมาส 1/59-2/67 แสดงให้เห็นว่า อัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมและอัตราการตั้งสำรองมีความสัมพันธ์กันที่ 81% อัตราส่วนหนี่เสียต่อสินเชื่อรวมที่ลดลงจะบ่งชี้ถึงการตั้งสำรองที่ลดลง

 

คาดกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 3/67

บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 3% QoQ และเป็นครั้งที่สามที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 17% YoY และ 5% QoQ บล.บัวหลวงคาดอัตราการตั้งสำรองในไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.0% ลดลงจาก 3.82% ในไตรมาส 3/66 และ 3.04% ในไตรมาส 2/67 บล.บัวหลวงคาดว่าอัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมของ MTC จะลดลงจาก 2.88% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2567 มาอยู่ที่ 2.80% ณ สิ้นเดือน ก.ย. บล.บัวหลวงคาด NIM ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 14.0% ลดลง 88bps You และ 15bps QoQ เนื่องจากต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น บล.บัวหลวงคาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 47.0% เพิ่มขึ้นจาก 45.2% ใน 3/66 (ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่สูงขึ้น-โดยเฉพาะค่าคอมมิชชั่นและค่าใช้จ่ายพนักงาน) แต่ลดลงจาก 47.5% ในไตรมาส 2/66 (การขยายสาขาที่ช้าลง)

 

มีแนวโน้มทำกำไรสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4/67

ในไตรมาส 4/67 บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิที่ 1.53 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 2% QoQ และเป็นครั้งที่สี่ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 17% YoY และ 4% QoQ เมื่อมองไปยังปี 2567 บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในกลุ่มการเงินรายย่อยที่บล.บัวหลวงให้คำแนะนำ หนุนโดยการขยายตัวของสินเชื่อที่ 17% YoY บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิปี 2568ที่ 6.8พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY โดยมีการเติบโตของสินเชื่อ 15% YoY

 

MTC ได้ออก "Social Bond' สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวน 335 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) เมื่อวันที่ 30ก.ย. 2567 และมีแผนที่จะออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทระยะเวลา 2-4ปีในปลายเดือนนี้ โดยได้รับการจัดอันดับใหม่ "A-" จาก Fitch และมีต้นทุนการเงินอยู่ในช่วง 3.50-4.20% (ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ที่ MTC ออกเมื่อปลายเดือนส.ค. 2567 ที่ได้รับการจัดอันดับ "BBB+" จาก TRIS อยู่ 75-100bps) เงินทุนนี้จะใช้ในการรีไฟแนนซ์หุ้นกู้มูลค่า 6.4 พันล้านบาทที่กำลังจะครบกำหนดในไตรมาส 4/67 และสำหรับการขยายธุรกิจในไตรมาส 4/67-1/68

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง