อยุธยา ระดับน้ำเริ่มลดลงแต่ยังท่วมสูงใน 12 อำเภอ กระทบ 5 หมื่นครัวเรือน

หลังจาก เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท คงการระบายน้ำลงสู้พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 4  ส่งผลทำให้มวลน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดระดับลงต่อเนื่องบ้างเฉลี่ยยประมาณ 5 – 10 ซม.

จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 12 อำเภอ 147 ตำบล 889 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 49,492 ครัวเรือน โดยในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลลาดชิด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งติดกับคลองลาดชิด รับมวลน้ำจากแม่น้ำน้อย พบว่าในพื้นที่ ซึ่งติดหลายหมู่บ้านและตำบลข้างเคียงมีบ้านเรือนอยู่ 2 ฝั่งริมคลองพบว่าระดับยังคงท่วมสูงแม้จะลดลงบ้างเล็กน้อย

ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่าพื้นที่ตรงนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกบ้านเรือนริม 2 ฝั่งคลอง ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน ระดับน้ำปัจจุบันลงลดเล็กน้อย ทรงตัว ความเป็นอยู่ยังคงยากลำบากกับการเข้าออก ซึ่งเช้าบ้านในละแวกถ้าอดีตหน้าบ้านก็จะอยู่ริมน้ำ แต่ปัจจุบัน ต้องใช้ถนนเป็นทางเข้าออก ซึ่งห่างออกจากถนนพอสมควรต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลัก พื้นที่ถูกน้ำท่วมทุกปี อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขามาแก้ไขปัญหาเนื่องจากท่วมนานและลงช้า 1 ปี ต้องถูกน้ำท่วมและรอน้ำลดนานรวมกว่า 3 – 4 เดือนบางพื้นที่มากกว่านั้นอีก

ที่ประตูระบายน้ำต่างๆในพื้นที่ เช่นที่ประตูระบายน้ำผักไห่ - เจ้าเจ็ด ก็ยังคงเปิดระบายมวลน้ำเข้าสู่อำเภอเสนา ทุ่งเสนา เพื่อระบายกระจาย มวลน้ำลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนบ้างแล้ว 

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผุดไอเดีย โรงพักเคลื่อนที่ทางน้ำ รับแจ้งความถึงหน้าบ้านบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัย เนื่องจากพบว่าในพื้นที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะ ชุมชนเกาะพระ ในพื้นที่ ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมกว่า 200 หลังคาเรือนต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

พ.ต.อ.อดิเรกโปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน จึงได้จัดทำโครงการ “ โรงพักเคลื่อนที่ทางน้ำ ” โดยนำพนักงานสอบสวน ออกให้บริการรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันถึงพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาที่สถานีตำรวจได้เนื่องจากน้ำท่วมและการเดินทางเข้าออกลำบาก

หนึ่งในผู้ได้รับบริการคือ นางอนันต์ หรือ “ ป้าอนันต์ ”(เสื้อแดง)เปิดเผยว่าปกติอาศัยอยู่กับลูกชายบ้านถูกน้ำท่วมมานานกว่า 3 เดือน ทุกครั้งที่ต้องออกไปทำธุระลูกจะเป็นคนพายเรือพาไป แต่ระยะนี้ลูกต้องออกไปทำงานจึงไม่สะดวกเดินทางไปแจ้งความหลังสมุดบัญชีธนาคารสูญหาย ทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้และเกรงว่าเงินช่วยเหลือน้ำท่วม9,000 บาทจะไม่เข้าจึงรู้สึกดีใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารับแจ้งความถึงหน้าบ้าน

พ.ต.อ.อดิเรกโปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน กล่าวยืนยันว่าถึงแม้การทำงานในสภาพน้ำท่วมจะลำบากแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย พร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และในวันนี้ยังมีสิ่งของมามอบช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนบางส่วนอีกด้วย