กรมชลฯ ชี้แจงกรณีน้ำท่วมซ้ำซาก “อยุธยา” ข้อเท็จจริงบริหารจัดการน้ำ

สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน เผย จากกรณีที่มีข้อห่วงใยและกระแสข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.ผักไห่ อ.เสนา และ อ.บางบาล ที่ต้องรับน้ำต่อเนื่องเป็นระลอกที่ 4-5 และมีความกังวลว่าเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำนั้น
กรมชลประทาน ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
1. ทำไมน้ำยังท่วม ทั้งที่เข้าสู่หน้าหนาว?
ปีนี้เราเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ อย่างชัดเจน แม้จะเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน แต่ยังคงมี “ฝนตกหนักกระจุกตัว” ในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลลงมาสมทบในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าค่าเฉลี่ยปกติ เป็นเหตุสุดวิสัยทางธรรมชาติที่กรมฯ ต้องบริหารจัดการอย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของเขื่อนและภาพรวมทั้งลุ่มน้ำ
2. ทำไมไม่ผันน้ำออก ซ้าย-ขวา ให้มากกว่านี้?
กรมชลประทานได้บริหารจัดการโดย “เฉลี่ยน้ำ” ออกสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก (ฝั่งออก) และ แม่น้ำท่าจีน/คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (ฝั่งตก) อย่างเต็มศักยภาพสูงสุดที่คันคลองจะรับไหว
ข้อควรระวัง คลองส่งน้ำเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อ “การชลประทาน” ไม่ใช่ “ทางระบายน้ำหลากขนาดใหญ่” หากอัดน้ำเข้าไปเกินขีดจำกัด จะเกิดความเสี่ยง “คันคลองวิบัติ” (คลองแตก) ซึ่งจะทำให้น้ำบ่าเข้าท่วมพื้นที่เกษตรและชุมชนในวงกว้างแบบฉับพลันและควบคุมไม่ได้ ซึ่งจะเสียหายร้ายแรงกว่าปัจจุบันมาก
3. การบริหารพื้นที่ทุ่งรับน้ำ การผันน้ำเข้าทุ่งต้องอาศัยจังหวะเวลาที่แม่นยำเพื่อ “ตัดยอดน้ำสูงสุด” หากเปิดรับน้ำเร็วเกินไป ทุ่งจะเต็มก่อนที่มวลน้ำก้อนใหญ่ที่สุดจะมาถึง ทำให้เราไม่เหลือพื้นที่หน่วงน้ำในช่วงวิกฤติ ประกอบกับต้องรอให้พี่น้องเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตให้แล้วเสร็จเพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ
ทางออกที่ยั่งยืน กรมชลประทานตระหนักดีว่าการบริหารในปัจจุบันเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราจึงเร่งรัดโครงการ “คลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร” ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อทำหน้าที่เป็นทางด่วนน้ำเลี่ยงเมืองอยุธยา ซึ่งจะช่วยระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยได้เร็วขึ้น แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในระยะยาวได้อย่างเป็นรูปธรรม
กรมชลประทาน เข้าใจและเห็นใจในความเดือดร้อนของพี่น้องชาวอยุธยาที่ต้องแบกรับภาระพื้นที่รับน้ำ เราขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังทำงานอย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด และดูแลเสริมความมั่นคงของคันกั้นน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้เหลือน้อยที่สุดครับ
หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถแจ้งได้ที่: สายด่วนกรมชลประทาน 1460
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
