BEM โบรกมองเชิงบวก รอปัจจัยกระตุ้น

#BEM #ทันหุ้น – บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จัดประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา โบรกเกอร์มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มในปีนี้ แนะนำ “ซื้อ”

บล.กรุงศรี : กำลังรอปัจจัยกระตุ้น

บล.กรุงศรียังคงคำแนะนำ “ซื้อ” BEM เราชอบ BEM ในฐานะที่ เป็นหุ้น defensive ที่ EPS มีแนวโน้มเติบโตดี ซึ่งข้อมูลที่เราได้รับจากการประชุมกับผู้บริหารเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ช่วยยืนยันว่า EPS ของบริษัทในปี 2024น่าจะโตได้ตามประมาณการของเราที่ 11% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจรถไฟฟ้า (rail) ทั้งนี้ ปัจจัยกระตุ้นจะมาจากการเซ็นสัญญาสองโครงการใหญ่ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม และ ทางด่วนสองชั้น (double-deck) ภายในสิ้นปีนี้

บล.กสิกรไทย : ปัญหาค้างคาที่เริ่มบรรเทาลง จะปลดล็อคราคาหุ้น

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. BEM จัดประชุมนักวิเคราะห์ประจำไตรมาส 1/67 บล.กสิกรไทยมองว่าโทนของการประชุมเป็นบวกเล็กน้อยจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรยังคงมีอยู่ แต่ไม่มีการความคืบหน้าอื่นที่มีนัยสำคัญ

คาดแรงกดดันด้านราคาหุ้นจะผ่อนคลายลงในเร็วๆ นี้ จากความคืบหน้าของกระบวนการพิจารณาคดีขั้นสุดท้ายในการแก้ไขข้อพิพาทรถไฟฟ้าสายสีส้ม และข้อกำหนดในสัญญาสัมปทานฉบับปัจจุบันต่อการปรับลดค่าผ่านทาง

บล.กสิกรไทยแนะนำ "ซื้อ" ด้วย TP ที่ 10.33 บาท เรายังคงชอบ BEM จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรและปัจจัยบวกจากโครงการใหม่ๆ

บล.บัวหลวง : แนะนำ “ซื้อ” เป้า 12.40 บาท

บล.บัวหลวงเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจรถไฟฟ้าในระยะสั้นและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในระยะยาว

ธุรกิจทางด่วน: จำนวนผู้ใช้ทางด่วนมีแนวโน้มทรงตัว YoY ในปี 2024 เนื่องจากผู้ใช้ทางบางส่วนเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง/ work from home

ธุรกิจรถไฟฟ้า:จำนวนผู้โดยสารคาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง (double digit) ในปี 2024รวมทั้งจะมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร 1 บาท /เที่ยว ตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป

ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม: กระทรวงคมนาคมรอผลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดก่อนจึงจะนำเสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติอีกครั้ง คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในกลางปีนี้

ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย: คาดว่าจะเริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้รับสัมปทานเดินรถภายในปีนี้หรืออย่างช้าในปี 2025 (คาดว่าจะเป็นรูปแบบการเจรจาตรงกับ BEM เนื่องจากเป็นผู้รับสัมปทานเดินรถสายสีม่วงเดิม)

ความคืบหน้าโครงการทางด่วน Double Deck: BEM อยู่ระหว่างการเจรจากับภาครัฐและคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับ BEM ได้ภายในระยะเวลาไม่นานจากนี้

ถึงแม้ว่า BEM มีแนวโน้มจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากสำหรับโครงการต่างๆดังกล่าว ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและมีความสามารถในการกู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพียงพอสำหรับการลงทุนโดยไม่ต้องเพิ่มทุน และคาดว่าจะรักษาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ระดับ 2-3% ได้

แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2024 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนั้นเรามองเห็นโอกาสของ BEM ในการพัฒนาธุรกิจผ่านการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในประเทศไทยอีกมาก บล.บัวหลวงจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" (ราคาเป้าหมาย 12.40 บาท)

บล.ดาโอ : Ridership ดีต่อเนื่อง, สายสีส้ม + Double Deck คืบหน้าตามแผน

บล.ดาโอคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมาย 10.40 บาท อิง SOTP เรามองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ BEM เมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) จากผลการดำเนินงานปี 2024E ดีต่อเนื่อง และโครงการใหม่คืบหน้าตามแผน โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) Ridership ในอนาคตมีโอกาสเพิ่มถึงระดับ 5 แสนเที่ยว/วัน จากปัจจุบันที่ 4 แสนเที่ยว หนุนโดยสายสีน้ำเงิน ramp up ต่อเนื่องและรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่, 2) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มคดีความจะได้ข้อสรุปใน 1-2 เดือนนี้ ขณะที่ Double Deck การเจรจามีความคืบหน้าค่อนข้างมาก, และ 3) ยืนยันไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน(ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด) โดยบล.ดาโอประเมิน net D/E ในช่วง 1-2 ปีแรกจะอยู่ในระดับ 2x ซึ่งต่ำกว่า covenant ที่ 2.5x

บล.ดาโอคงกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 3.7 พันล้านบาท (+8% YoY) สำหรับ 2024E เบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิจะโตดี YoY, QOQ จากรายได้เงินปันผล TTW และ CKP รวม 337 ล้านบาท และ ridership จะกลับมาขยายตัวตั้งแต่ พ.ค. หลังเปิดภาคเรียน

ราคาหุ้นกลับมา in line กับ SET ใน 1-6 เดือน ทั้งนี้ บล.ดาโอคงมุมมองบวกต่อ BEM จากแนวโน้มกำไรปกติปี 2024E-25 E ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่หากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและทางด่วน Double Deck ได้ข้อสรุปตามแผ่น เบื้องต้นบล.ดาโอประเมินจะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายรวมราว 3 บาท/หุ้น