รีเซต

ชาวเกาะเต่า พัทลุง ทนไม่ไหว ผวาหนุ่มหลอนยา บุกบ้านคนอื่น ตร.ไม่รับแจ้งความ บอกเสียเวลา

ชาวเกาะเต่า พัทลุง ทนไม่ไหว ผวาหนุ่มหลอนยา บุกบ้านคนอื่น ตร.ไม่รับแจ้งความ บอกเสียเวลา
มติชน
19 กันยายน 2565 ( 15:57 )
72
ชาวเกาะเต่า พัทลุง ทนไม่ไหว ผวาหนุ่มหลอนยา บุกบ้านคนอื่น ตร.ไม่รับแจ้งความ บอกเสียเวลา

ชาวบ้านเกาะเต่า อ.ป่าพะยอม ผวาชายวัย 36 ปี ถือมีดบ้าง ปืนบ้าง บุกทำลายข้าวของและข่มขู่ชาวบ้าน เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นายอัยกร เพ็งนุ่น อายุ 42 ปี ชาว ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ว่ามี ชายวัย 36 ปี เกิดอาการหลอนจากการเสพยา ถือมีดพร้าบุกเข้ามาทำลายข้าวของภายในบ้าน แถมยังใช้มีดฟันสุนัขบาดเจ็บ บางวันถือปืนยาวออกมาข่มขู่ ทำให้ชาวบ้านอยู่ด้วยความหวาดกลัวและหวาดระแวง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายอัยกร ซึ่งอาศัยอยู่กับ นางร่วง เพ็งนุ่น มารดาวัย 85 ปี โดยนายอัยกรเล่าว่า ตนติดกล้องวงจรปิดไว้ เห็นผู้ก่อเหตุที่ปรากฏคือ นายเตี้ย หรือนายวิโรชน์ แก้วแหร้ อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน ช่วงเกิดเหตุมารดาอยู่บ้านลำพัง ตนอยู่ที่คอกหมูไม่ไกลจากบ้าน นายเตี้ยถือมีดพร้าบุกเข้ามาภายในบ้าน แต่ถูกสุนัขไล่ และญาติๆ ของนายเตี้ยมาเรียกออกไป เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจกับมารดาอย่างมาก

นายอัยกรกล่าวว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเตี้ยเข้ามาที่บ้าน นายเตี้ยเข้ามาวนเวียนหลายครั้ง บางครั้งถือปืนยาวมาเดินวนเวียนบนถนนหน้าบ้าน หนักๆ คือเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา นายเตี้ยถือมีดพร้าบุกเข้าไปทำลายข้าวของบริเวณหน้าบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งใช้มีดพร้าฟันสุนัขที่เลี้ยงไว้จนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์กว่า นายเตี้ยขี่รถจักรยานยนต์ถือมีดพร้ามาจอดหน้าบ้าน แล้วเดินวนไปวนมา ทำให้ตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมจ้างช่างทำประตูเหล็กกั้นหน้าบ้านเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากนายเตี้ย

นายอัยกรกล่าวว่า เคยไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าพะยอม แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง อ้างว่าแจ้งไปก็เสียเวลาเปล่าๆ กว่าเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ต้องใช้เวลานานหลายวัน และเมื่อแจ้งความไปแล้วโทษก็น้อย จำคุกไม่นานก็ออกมาอีก แจ้งไปก็เท่านั้น จึงร้องขอให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้ว่านายเตี้ยมาก่อเหตุที่บ้าน เพราะไม่รู้จะทำเช่นไร

“เหตุที่นายเตี้ยหมายหัวครอบครัวผมอาจมาจากก่อนหน้านี้นายเตี้ยมาขอกินข้าว และมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรให้หายจากอาการหลอน ผมบอกให้นายเตี้ยเลิกเสพยา อาการต่างๆ ก็จะหายไป ทำให้นายเตี้ยโกรธ และไม่พอใจ คิดว่ากล่าวหาว่านายเตี้ยเสพยา

“ไม่ใช่เฉพาะครอบครัวผมที่หวาดกลัว เพื่อนบ้านในหมู่บ้านต่างก็อยู่กันด้วยความหวาดระแวง ไม่รู้ว่านายเตี้ย จะเกิดอาการหลอนขึ้นมาช่วงไหน วันไหน เพราะแม้แต่ ‘แม่’ ก็ไม่สามารถอยู่บ้านเดียวกับนายเตี้ยได้ ต้องหนีออกไปอยู่ที่อื่น ต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัว รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ให้รอดพ้นจากความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากนายเตี้ย” นายอัยกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายเตี้ย พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองและเสพยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาช่วงปลายปี 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง