อิสราเอลใช้ AI ปกป้องน่านน้ำทางตอนเหนือ

ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา แหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลถูกค้นพบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกหรือทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ทำให้อิสราเอลกลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกพลังงานเจ้าใหญ่ของโลก แต่นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้น่านน้ำบริเวณดังกล่าวถูกบุกรุกด้วยเช่นกัน 

วิเคราะห์การบุกรุกด้วยเอไอ (AI) 

เพื่อทุเลาปัญหานี้ อิสราเอลจึงใช้เอไอ (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลและจำแนกประเภท, ขนาด, รูปร่าง และพฤติกรรมใด ๆ ก็ตามที่เห็นว่าน่าสงสัย ซึ่งเอไอนี้จะผสานการทำงานไปพร้อมกับโดรนบิน ที่จะคอยส่งภาพและแจ้งเตือนให้กับเจ้าหน้าที่ทราบแบบเรียลไทม์ เพื่อปกป้องน่านน้ำได้อย่างทันท่วงที

“มันสามารถแจ้งเตือนคุณเกี่ยวกับเป้าหมายเฉพาะได้ว่านี่คือเป้าหมายที่มีความเสี่ยงที่คุณต้องตรวจสอบ ดังนั้นจึงช่วยประหยัดเวลาได้มาก ลดกำลังคนได้มาก" - กาย เกราซี (Guy Gerasy) หัวหน้าหน่วยสนับสนุนปฏิบัติการไร้คนขับแห่งอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของอิสราเอล

สำหรับก่อนหน้านี้ น่านน้ำของประเทศอิสราเอลเคยถูกรุกรานแล้วหลายครั้ง เช่น ในปี 2022 เคยมีโดรนปริศนาไร้อาวุธจำนวน 3 ตัว พยายามบินไปยังแท่นขุดเจาะก๊าซในน่านน้ำของประเทศอิสราเอล แต่ถูกสกัดไว้ได้ก่อน

โดรนสตาร์ไลท์ (Starlight) ดวงตาเหนือท้องทะเลของประเทศอิสราเอล 

โดยโดรนที่ใช้จะเป็นโดรนนกกระสาที่ชื่อว่า สตาร์ไลท์ (StarLight) ซึ่งปัจจุบันเป็นองค์ประกอบสำคัญของการป้องกันทางทะเลของอิสราเอล กองทัพอากาศเรียกมันว่า "ดวงตาเหนือท้องทะเล" สามารถมองเห็นได้จากระยะทาง 20 กิโลเมตร พร้อมกล้องอินฟราเรด ทำให้มองเห็นได้แม้ในเวลากลางคืน เมื่อจับภาพได้ เทคโนโลยีเอไอจะทำการตรวจจับ, ประมวลผล ก่อนจะแจ้งเตือนให้กองบัญชาการทราบ หลังจากนั้นกองบัญชาการจะทำการสกัดการบุกรุก ขึ้นอยู่กับว่าการบุกรุกมาในรูปแบบใด

การปกป้องน่านน้ำด้วยเอไอ ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ประเทศอิสราเอลสามารถตรวจจับภัยอันตรายได้อย่างทันท่วงที และช่วยให้ช่วยประหยัดกำลังพลในการลาดตระเวน พร้อมลดการสูญเสียกำลังพลหากมีการปะทะกันอีกด้วย

ข้อมูลจาก reuters

ภาพจาก i24news