เชียงราย จมฝุ่น PM2.5 พุ่ง 181 มคก./ลบ.ม. เร่งฉีดน้ำหวังช่วยได้

เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เร่งฉีดน้ำแก้ปัญหาเบื้องต้น หลังค่าฝุ่น PM2.5 ในจ.เชียงราย พุ่งสูงถึง 181 มคก./ลบ.ม. คาดส่วนใหญ่ พัดมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2564 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับอ.แม่สาย เทศบาลต.แม่สาย จ.เชียงราย ทหารกองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเครื่องฉีดพ่นน้ำและรถดับเพลิงเปิดปฏิบติการฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ตรงจุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศและทำความสะอาดบริเวณด่านพรมแดน

เนื่องจากสภาพอากาศโดยทั่วไปมีฝุ่นละอองและหมอกควันเกิดขึ้นติดต่อกันมานานประมาณ 1 สัปดาห์ ล่าสุดในเวลา 13.00 น. กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา วัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศได้ 181 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทำให้อากาศทั่วไปดูขะมุกขะมัวอย่างเห็นได้ชัดและหากออกไปอยู่ในที่โล่งจะมีอากาศระคายเคืองตา ขณะที่เในเขต อ.เมืองเชียงราย มีการตรวจวัดค่า PM2.5 ได้ในปริมาณ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตามพบว่าวิธีการฉีดพ่นน้ำทำให้อากาศชุ่มชื้นขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ และมีเนื้อที่จำกัดเพราะบรรยากาศทั่วไปยังมีความขะมุกขะมัว ขณะที่กลุ่มฝุ่นละอองหนาแน่นส่วนใหญ่ได้พัดปลิวมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่ามีการจุดไฟเผาพื้นที่ทางการเกษตรเป็นบริเวณกว้างโดยพัดปลิวมาจากทั้งทางทิศตะวันออก ทิศเหนือและทิศตะวันตก

ส่วนพื้นที่ลึกเข้ามาทางตอนในของประเทศค่า PM2.5 จะลดลงลดเรื่อย ๆ และมีจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในพื้นที่ จ.เชียงราย เกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย ได้มีประกาศจังหวัดห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึงวันที่ 30 เม.ย. นี้เป็นเวลา 90 วัน

ด้านพ.ท.ปรีชา วงศ์สาขา ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง กล่าวว่าปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชนได้ร่วมกันทำแนวกันไฟและเฝ้าระวังไฟป่าที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะตามแนวชายแดนแล้ว ส่วนสุดท้ายคือการขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันรณรงค์งดเผาเพื่อลดมลภาวะทางอากาศซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพต่อไป