"ฮุน เซน" ประกาศโครงการผลิตน้ำมันดิบเองของกัมพูชา "ล้มเหลว" ได้น้ำมันแค่พันบาร์เรล

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนี้ว่า นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชา ประกาศในวันเดียวกันนี้ว่า โครงการเพื่อการขุดเจาะน้ำมันดิบเองของกัมพูชาจากแหล่งขุดเจาะในน่านน้ำกัมพูชาบริเวณอ่าวไทย “ล้มเหลว” ลงแล้ว หลังจากเพิ่งประกาศอย่างยิ่งใหญ่เมื่อ 8 เดือนก่อนหน้านี้ว่า กัมพูชาจะเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยการผลิตน้ำมันใช้เอง โดยที่ผู้เชี่ยวชาญอ้างว่า แหล่งน้ำมันดิบดังกล่าวมีปริมาณน้ำมันอยู่ในระดับที่มีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม โครงการขุดเจาะน้ำมันดังกล่าว ซึ่งดำเนินการโดย คริสเอเนอร์ยี บริษัทจากสิงคโปร์ กลับตกอยู่ในสถานะจวนเจียนจะล่มสลายลง เมื่อ คริสเอเนอร์ยี กลายเป็นบริษัทที่มีหนี้สินมหาศาลและไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอชำระบัญชีเพื่อปิดกิจการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ คริสเอเนอร์ยี เคยคาดการณ์ว่า แหล่งขุดเจาะของกัมพูชาในอ่าวไทยมีศักยภาพในการผลิตน้ำมันได้ถึง 7,500 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อศักยภาพของโครงการพุ่งถึงจุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวยืนยันด้วยตัวเองว่า ไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีการคาดการณ์ไว้

“เมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา เราประกาศการพบและดูดน้ำมันดิบหยดแรกขึ้นมาได้…บางที ถึงตอนนี้มันคือความล้มเหลว เพราะถึงที่สุดแล้ว เราปั้มน้ำมันขึ้นมาได้เพียงแค่ 1,000 บาร์เรลในวันหนึ่งเท่านั้น แล้วตอนนี้บริษัทก็ล้มละลาย” นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุ พร้อมกับกล่าวหาบริษัทจากสิงคโปร์เพิ่มเติมว่า หลบหนีไปพร้อมกับเรือบรรทุกน้ำมันที่บรรจุน้ำมันซึ่งขุดขึ้นมาได้

“เราไม่สามารถป้องกันได้ทันเวลา พวกนั้นหลบหนีไปพร้อมกับน้ำมัน”

ทั้งนี้ตามโครงการดังกล่าว คริสเอเนอร์ยี จะมีส่วนแบ่งผลประโยชน์สูงถึง 95 เปอร์เซ็นต์จากผลลัพธ์ของโครงการ อีก 5 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะตกเป็นของทางการกัมพูชา แต่ก็ถือเป็นรายได้มหาศาล โดยมีการคาดการณ์กันเมื่อปี 2017 ว่า กัมพูชาจะมีรายได้จากค่าภาคหลวงและการเก็บภาษีจากโครงการนี้ในระยะแรกถึงอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 15,600 ล้านบาท)