LHFG ไตรมาส 3 กำไร 543 ล. เพิ่ม 11% งวด 9 เดือน กำไร 1.74 พันล. เพิ่ม 41%

#LHFG #ทันหุ้น – บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 542.67 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.026 บาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 489.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.023 บาท

สำหรับผลงานงวด 9 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 1,744.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.082 บาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,234.00 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.058 บาท

ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน LHFG  งวด 9 เดือนของปี 2566มีกำไรสุทธิจำนวน 1,744.6ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.4เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีกำไรสุทธิ 1,369.9ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.3เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้จากการดำเนินงานอื่น และการลดลงของผลขาดทุนค้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังคงตั้งสำรองค่าใช้จ่าย ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาคว่าจะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวังเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้า โดยอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Coverage Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 218.3 1และอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.00 ณ สิ้นปี 2565เป็นร้อยละ 2.56 ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2566

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 5,127.2ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7เมื่อเทียบกับงวด 9เดือนของปี 2565และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 1,460.4 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.03เมื่อเทียบกับงวด 9เดือนของปี 2565ส่วนใหญ่เป็นการลดลงจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และกำไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นจำนวน 2,913.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0เมื่อเทียบกับงวด 9เดือนของปี 2565เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายและ โฆษณา และค่าภาษีอากร

เงินให้สินเชื่อจำนวน 236,248.8ล้านบาท ลดลง 14,846.6ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565ซึ่งธนาคารได้ชะลอการขยายสินเชื่อรายใหญ่และเร่งขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อย จะเห็นได้ว่าสินเชื่อเพื่อรายย่อย มีจำนวน 52,300.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,917.3ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.4 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565

ธนาคาร ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล B-You Max ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงพิเศษที่ร้อยละ 6ต่อปี (สำหรับยอดเงินฝากไม่เกิน 10,000บาท) พร้อมสิทธิพิเศษยกเว้นค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต LH Bank ตลอดการใช้งาน รวมทั้งได้ร่วมมือกับรถไฟฟ้า BIS และบัตรแรบบิท (Rabbit Card) เพื่อมอบสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าที่เปิดบัญชี B- You Max หรือสมัคร สินเชื่อบุคคล Happy Cash ผ่านแอปพลิเคชัน LHB You จะได้รับบัตรแรบบิทคอลเลกชันพิเศษ "LHB You Avatar Edition" ฟรี พร้อม Top Up ในบัตรให้อีก 200 บาท สามารถใช้เป็นค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม ถึง 31ธันวาคม 2566หรือจนกว่าจำนวนสิทธิ์จะหมด ส่งผลให้จำนวนลูกค้าเงินฝากรายย่อยเติบโตอย่างก้าวกระโดด