สนธิญา ร้อง บช.น. ตรวจสอบ วีระ สมความคิด ผิดพ.ร.บ.คอมฯ-หมิ่น แรมโบ้ 'ปม' คลิปเสียง
ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 เมษายน ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี นายวีระ สมความคิด กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท ต่อนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด หรือไม่ โดยมี พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.ฝอ.5.บช.น. เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าว
นายสนธิญา เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการเปิดเผยคลิปเสียง ก็ได้มีการประสานมาให้ตนติดตามคลิปทุกคลิปเกี่ยวกับการแสดงความเห็นถึงคลิปดังกล่าว โดยคลิปดังกล่าวเป็นบทสนทนาระหว่างบุคคล 2 คน ซึ่งการนำมาเผยแพร่นั้น เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายโทรคมนาคม มาตรา 74 และยังเป็นการกระทำที่ผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งคลิปเสียงดังกล่าวเป็นการหยอกล้อกันเล่น โดยวันนี้ตนได้รับการแต่งตั้งจากนายเสกสกล เป็นตัวแทนให้มาดำเนินคดีกับนายวีระ เพื่อปกป้องตนเอง เพราะคณะทำงานนั้นมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้น การดำเนินงานก็เพื่อรักษาความถูกต้องให้กับสังคม และอาทิตย์หน้าก็คงมาเพื่อให้ตรวจสอบหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และรายการหนึ่งซึ่งขณะนี้รวบรวมเอกสารได้ค่อนข้างชัดเจน
นายสนธิญา เปิดเผยอีกว่า วันนี้ตนมาให้ตรวจสอบแค่นายวีระ ก็เข้าใจว่า ทั้งนายวีระ และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ต้องการทำผลงาน เพื่อให้พรรคเสรีรวมไทยแต่งตั้งลงในบัญชีรายชื่อสมัยหน้าก็เป็นได้ แต่การกระทำที่เป็นความเท็จ ก็ต้องดำเนินคดี โดยการกระทำของนายวีระ มีความผิดในหลายประเด็น ทั้งความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรณีมีเงิน 15 ล้านบาท หรือการใช้เงิน 100 ล้านบาท ส่วนตัวใช้เงิน 100 ล้านบาทในการเลือกตั้ง ถ้ามีการซื้อเสียงคนละ 1,000 ต่อ 1 คน จะได้ 100,000 คะแนนเสียง ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาต้องใช้ 120,000 คนต่อ 1 เขต หากเป็นจริง เหตุใดนายเสกสกลจึงไม่ชนะ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการพูดเล่นและกลายเป็นข่าวใหญ่ ก็ต้องระมัดระวัง โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา จึงรวบรวมคลิปภาพที่มีการโพสต์ลงเอาไว้ในเพจของแต่ละท่านมาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้นายเสกสกลเสียหายทุกราย
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นฟ้องตน จนตกเป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น กรณีดังกล่าวเป็นสัญญาของลูกผู้ชาย ได้มีการตกลงระหว่างทนายความทั้ง 2 ฝ่าย ต่อหน้าบัลลังก์ผู้พิพากษา ตนจะดำเนินการตามที่ตกลงกันระหว่างลูกผู้ชาย หากผิดคำพูดก็เป็นจะเป็นการตกลงกันของยาจก ตนไม่โกรธใครทั้งสิ้น จะรับในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยได้เสียค่าปรับเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท และขณะนี้ยังมีฟ้องต่อเนื่องอีก 2 เรื่อง ซึ่งผู้พิพากษาถามว่าสามารถตกลงกันได้หรือไม่ ส่วนการขอโทษในฐานะจำเลยนั้น ตนพร้อมจะขอโทษมานานแล้ว แต่ถ้าให้กราบเท้าคงไม่ทำ ที่ขอโทษเพราะตนไปอยู่ในการทำงานของคณะกรรมาธิการ และทำตามหน้าที่ ทำด้วยความสุจริตใจ หากกระทบกระเทือนก็พร้อมที่จะขอโทษ หากทำให้เสื่อมเสียเกียรติ