สหรัฐฯ เริ่มปรับ F-16 ให้เป็นเครื่องบินไร้คนขับภายใต้โครงการลับ VENOM

ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2025 กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 Fighting Falcon ลำสุดท้าย ถูกจัดเตรียมเพื่อเข้าร่วมโครงการ VENOM หรือ Viper Experimentation and Next-gen Operations Model – Autonomy Flying Testbed หรือการพัฒนาเครื่องบินไร้คนขับได้เข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการดัดแปลงให้สามารถบินได้โดยไม่ต้องมีนักบินควบคุม
โดยภาพถ่ายบางส่วนแสดงให้เห็นโรงเก็บเครื่องบินมี F-16 อีก 3 ลำอยู่ระหว่างกระบวนการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถทดสอบระบบอัตโนมัติได้ ซึ่งรวมถึงการติดตั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเครื่องมือวัดต่าง ๆ และความคืบหน้าล่าสุดเริ่มมีการเพิ่มระบบคันเร่งอัตโนมัติเพื่อควบคุมแรงขับและพื้นผิวควบคุมการบินโดยไม่ต้องพึ่งพานักบิน
พันตรีเทรนต์ แมคมัลเลน (Maj. Trent McMullen) หัวหน้าฝ่ายขีดความสามารถขั้นสูงจากฝูงบินทดสอบการบินที่ 40 เปิดเผยว่า
“การดัดแปลงเหล่านี้เป็นผลจากกระบวนการออกแบบอย่างเข้มงวด และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบอัตโนมัติบนเครื่องบินรบจริง”
ขณะนี้ ระบบอัตโนมัติของ VENOM กำลังถูกทดสอบในสภาพแวดล้อมการจำลองขั้นสูง โดยสามารถรันสถานการณ์การรบได้เร็วกว่าปกติ ทั้งการรบระยะประชิด (Within Visual Range) และนอกระยะมองเห็น (Beyond Visual Range) โดยมีการขยายขอบเขตจากการต่อสู้ตัวต่อตัวเป็นการต่อสู้แบบสองต่อสอง เพื่อฝึกระบบ AI ให้สามารถตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้
ขั้นตอนถัดไปคือการทดสอบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์แบบ “In-the-loop” เพื่อประเมินการสื่อสารระหว่างระบบอัตโนมัติกับระบบของเครื่องบิน โดยการทดสอบจะเริ่มในเครื่องจำลองการบิน F-16 เพื่อประเมินความปลอดภัย และยืนยันว่าระบบอัตโนมัติจะไม่สั่งการเกินขีดจำกัดที่ปลอดภัยทั้งทางกายภาพและสรีรวิทยาสำหรับนักบิน
เมื่อผ่านการทดสอบขั้นต้นแล้ว เครื่องบิน F-16 ที่ได้รับการดัดแปลงสมบูรณ์จะเข้าสู่การทดสอบภาคพื้นดิน ก่อนจะเริ่มบินทดสอบจริง โดยนักบินทดสอบจะควบคุมและเฝ้าระวังการทำงานของระบบอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ สามารถเริ่มหรือหยุดระบบได้ตามสถานการณ์
พ.อ.เจเรมี แคสเตอร์ (Lt. Col. Jeremy Castor) หัวหน้าฝ่ายทดสอบปฏิบัติการของโครงการ VENOM กล่าวเสริมว่า การทำงานร่วมกันระหว่างทีมทดสอบพัฒนา (DT) และทดสอบปฏิบัติการ (OT) ในสถานที่เดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และเร่งความก้าวหน้าของโครงการอย่างมีนัยสำคัญ
หลังจากใช้เวลาเพียง 18 เดือน นับจากที่ F-16 ลำแรกมาถึง เครื่องบินที่ได้รับการปรับแต่งอย่างสมบูรณ์ก็พร้อมสำหรับการทดสอบขั้นสุดท้าย
โดยพันตรีเทรนต์ แมคมัลเลน (Maj. Trent McMullen) สรุปว่า “VENOM แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการเสริมความสามารถรบของแพลตฟอร์มทั้งที่มีและไม่มีนักบินในอนาคต”