“จุรินทร์”ขอผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้า-บริการ จนกว่าวิกฤตโควิด-19จะผ่านพ้น
วันนี้ (26 มี.ค.63) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมหารือแนวทางมาตรการช่วยเหลือภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ว่า ได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มมาหารือ ประกอบด้วย ห้างค้าส่งค้าปลีก (Modern Trade) ผู้ประกอบธุรกิจการให้บริการส่งถึงบ้าน (delivery service) และกลุ่มผู้รับส่งพัสดุภัณฑ์ ซึ่งห้างค้าส่งค้าปลีก ประกอบด้วย แม็คโคร ท็อปส์ เซเว่น-อีเลฟเว่น บิ๊กซี เทสโก้โลตัส เป็นต้น ส่วนผู้ประกอบการ delivery service ประกอบด้วย Grab Lineman ลาล่ามูฟ และ GET และผู้ประกอบการส่งพัสดุภัณฑ์ บริษัทไปรษณีย์ไทย และเคอรี่ มาร่วมหารือ ซึ่งได้ข้อสรุปร่วมกันว่าในสถานการณ์ที่พฤติกรรมผู้บริโภค เปลี่ยนแปลงไปในสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญกับภัยโควิดนั้น การให้บริการส่งอาหารหรือส่งสินค้าอุปโภคบริโภคถึงบ้านเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมากขึ้น ซึ่งจากการประชุมวันนี้มีข้อสรุปร่วมกันคือ
ผู้ประกอบการ delivery service
1. จะขอให้แจ้งอัตราค่าบริการให้กับกรมการค้าภายใน ภายในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้รับทราบว่าคิดค่าบริการอย่างไร
2. ทุกบริษัทให้พันธสัญญาร่วมกันว่า ในช่วงวิกฤตภัยโควิดของประเทศนี้จะไม่ขึ้นราคา หรือจะตรึงราคาค่าบริการในราคาเดิมไว้
3. ผู้ประกอบการ delivery service จะเร่งเพิ่มเติมให้ร้านอาหารเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มให้มากที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ร้านอาหารได้มีช่องทางในการจำหน่ายมากขึ้น ประกอบกับเพื่อให้ผู้บริโภคที่จำเป็นต้องอยู่กับบ้านมากขึ้นได้มีทางเลือก พร้อมกับจะเปิดรับพนักงานบริการมากขึ้น เพื่อช่วยให้คนมีงานทำ และเปิดโอกาสให้กลุ่มมอเตอร์ไซด์รับจ้างได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้มีรายได้
4. จะเร่งส่งเสริมการจ่ายเงินแบบอีเพย์เมนต์ e-Payment
ด้าน ร้านค้าส่งค้าปลีก (Modern Trade)
1. ให้คำมั่นสัญญาร่วมกันไว้ว่าจะตรึงราคาสินค้าไว้ในราคาเดิม และจะไม่ทำผิดกฎหมาย เพราะว่าภาครัฐมีความจำเป็นต้องจัดการกับการกักตุนสินค้า หรือการขายเกินราคาค้ากำไรเกินควร
2. ทางโมเดิร์นเทรดแจ้งว่า เนื่องจากมีผู้บริโภคมีความต้องการซื้อหาเครื่องครัว เพื่อไปประกอบอาหารรับประทานเองที่บ้าน แต่ไม่สามารถนำมาจำหน่ายได้ รวมทั้งของใช้จำเป็นอื่นๆ ดังนั้น จะได้ขอให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์นำไปหารือในศูนย์โควิด หรือทางกรุงเทพมหานครต่อไป เพื่อเปิดทางให้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตสามารถให้บริการ ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากขึ้น
3. เรื่องการขอขยายเวลาการขนส่งสินค้า จากโรงงานต้นทางไปยังโกดังสินค้า รวมทั้งการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกต่างๆ นั้น จะได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับที่ศูนย์ประชุมโควิด เพื่อขอให้สามารถทำได้ตลอดเวลาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน สามารถซื้อหาสินค้าได้อย่างไม่ขาดตอน และเพื่อให้ร้านโมเดิร์นเทรดสามารถนำของมาเติมชั้นสินค้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะก่อนหน้านี้มีการกำหนดเวลาการส่งสินค้าเอาไว้ อีกทั้งมีการกำหนดให้สามารถทำได้ถึงวันที่ 24 เมษายนเท่านั้น
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand