กรุงศรี ส่อง 2 หุ้นบิ๊กแคป CPF-TU ควรลงทุนอย่างไร

#ทันหุ้น-บล.กรุงศรี ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นขนาดใหญ่ 2 หุ้นได้แก่หุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU โดยคาดการณ์ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุน 

ฝ่ายวิจัยกรุงศรี แนะนำซื้อหุ้น CPF ให้ราคาเป้าหมายที่ 27.30 บาท ซึ่งมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/68 คาดว่าอยู่ที่ 6,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY ซึ่งมีกำไรปกติอยู่ที่ 358 ล้านบาท และกำไรจะทรงตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หรือ QoQ ซึ่งกำไรไตรมาส 1/68 มองว่าดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากราคาหมูไทย หมูเวียดนามและราคาไก่เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งกากถั่วเหลือง และข้าวโพดลดลง ซึ่งชดเชยกับราคาหมูจีนที่ลดลง QoQ 

สำหรับแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 คาดจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากทิศทางราคาหมูไทย/เวียดนามยังทรงตัวในระดับสูง 

โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568 ของ CPF อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 16% จากปีก่อน แม้กำไรไตรมาส 1/68 คิดเป็น 40% ของกำไรทั้งปี 2568 แต่เนื่องจากยังต้องติดตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการเจรจากับสหรัฐ ว่าจะมีการเปิดให้นำเข้าสินค้าเกษตรชนิดใดบ้าง 

ฝ่ายวิจัยกรุงศรี มองหุ้น TU อยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการและราคาเป้าหมาย ซึ่งมีมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 1/68 ของ TU ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 645 ล้านบาท ลดลง 32% YoY และลดลง 41% QoQ ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ จากรายได้ที่ลดลง YoY และ QoQ เพราะคำสั่งซื้อจากสหรัฐ และยุโรปที่ลดลง อีกทั้งเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ SG&A/sales เพิ่มขึ้น จากค่าใช้จ่ายการตลาด และ ะ transformation costs

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดว่ากำไรปกติของ TU จะลดลง YoY จากทิศทางต้นทุนทูน่าเพิ่มขึ้น SG&A/sales เพิ่ม และภาษีจ่ายเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์ GMT แต่อาจเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ฝ่ายวิจัยมองว่าธุรกิจส่งออกมีความเสี่ยงจากนโยบายสงครามการค้าของสหรัฐฯ จึงควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุน