รีเซต

คดีคลิปเสียงแพทองธาร–ฮุนเซน ย้อนที่มา กฎหมาย และเส้นทางสู่ศาลรัฐธรรมนูญ

คดีคลิปเสียงแพทองธาร–ฮุนเซน ย้อนที่มา กฎหมาย และเส้นทางสู่ศาลรัฐธรรมนูญ
TNN ช่อง16
25 สิงหาคม 2568 ( 21:20 )
11

ย้อนที่มาของคดีคลิปเสียง

เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อกลางปี 2568 เมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาความยาวประมาณ 17 นาที ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา คลิปดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยฝ่ายกัมพูชา ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของฮุนเซนเอง

ในคลิปมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความสงบชายแดนไทย–กัมพูชา โดยช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวถ้อยคำที่ถูกตีความว่าอาจอ่อนข้อให้กัมพูชา เช่น ประโยคที่ว่า “ถ้าอังเคิลอยากได้อะไร หลานจะดำเนินการให้” ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย

ภายหลังการเผยแพร่ คลิปนี้ถูกใช้เป็นหลักฐานโดยสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 36 คน ที่ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง หรือกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศหรือไม่

สาระสำคัญทางข้อกฎหมาย

การพิจารณาคดีนี้อ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยมีมาตราหลักที่ถูกหยิบขึ้นมาใช้ ได้แก่

  • มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4)  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน
  • มาตรา 160 (4) และ (5)  ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และไม่กระทำการที่เป็นการขัดต่อจริยธรรมร้ายแรง
  • มาตรา 82 วรรคสาม  เปิดทางให้สมาชิกรัฐสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนทั้งหมดของสมาชิกวุฒิสภา เข้าชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาสถานภาพของรัฐมนตรี

ในแง่มิติระหว่างประเทศ นักกฎหมายยังชี้ว่าการเจรจาแม้จะเป็นการส่วนตัว แต่หากเกิดจากผู้นำประเทศ ก็อาจมีน้ำหนักทางกฎหมายระหว่างประเทศตาม อนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยสนธิสัญญา ปี 1969 ซึ่งกำหนดให้การแสดงเจตนาของผู้นำรัฐมีผลในระดับความสัมพันธ์ทางการทูต

เส้นทางสู่ศาลรัฐธรรมนูญ

ภายหลังรับคำร้อง ศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาตามลำดับขั้นตอน

รับคำร้องและตรวจสอบเบื้องต้น

ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ามีมูลพอสมควร จึงรับคำร้องเพื่อเข้าสู่การพิจารณาอย่างเป็นทางการ

การไต่สวนพยานและพยานเอกสาร

ศาลได้เรียกพยานบุคคลทั้งฝ่ายผู้ร้องและฝ่ายผู้ถูกร้อง แต่ดำเนินการในลักษณะลับ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การยื่นคำแถลงปิดคดี

ทั้งสองฝ่ายได้รับโอกาสให้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เพื่อสรุปข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ต้องการยืนยันต่อศาล

การวินิจฉัย

ศาลได้นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 โดยคำตัดสินจะเป็นตัวชี้ขาดว่า นายกรัฐมนตรีจะยังดำรงตำแหน่งต่อไป หรือสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีทันที

ประเด็นชี้ขาดของศาล

ศาลรัฐธรรมนูญต้องตอบคำถามสำคัญว่า

  • ถ้อยคำที่ปรากฏในคลิปเป็นเพียงเทคนิคการทูตเพื่อสร้างบรรยากาศ หรือเป็นการยอมอ่อนข้อจนกระทบต่ออธิปไตย
  • การเจรจาดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่
  • หากศาลเห็นว่าการกระทำเป็นความผิด นายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญทันที

คดีคลิปเสียงแพทองธาร–ฮุนเซน ไม่ได้เป็นเพียงข้อถกเถียงทางการเมือง แต่ยังสะท้อนความละเอียดอ่อนของการตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เชื่อมโยงกับเวทีการทูตระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญก็กลายเป็นกลไกสำคัญที่สังคมจับตามองว่าจะสามารถรักษาสมดุลระหว่างหลักนิติธรรม อธิปไตย และความมั่นคงได้อย่างไร

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง