มอเตอร์ไซค์รับจ้าง-แม่ค้า-คนงานก่อสร้าง อาชีพที่เลือกไม่ได้ บนความเสี่ยงฝุ่น PM2.5
ณ วันนี้ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ กทม.ยังพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
โดยเฉพาะ ‘อาชีพ’ ที่ต้องเผชิญกับมลพิษฝุ่นอยู่เป็นประจำ อย่าง วินมอเตอร์ไซต์ คนงานก่อสร้าง แม่ค้าริมถนน นับเป็นอาชีพที่ไม่มีทางเลือก บนความเสี่ยง PM2.5
TNN Exclusive ได้พูดคุยกับทั้ง 3 อาชีพ ส่งผ่านมุมมองความรู้สึกจากผลกระทบด้านสุขภาพ ต้นเหตุจาก ปัญหาฝุ่น PM2.5 ทุกอาชีพสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่มีทางเลือก’ เพราะการออกมาเผชิญฝุ่น นั่นหมายถึง เราจะมี ‘รายได้’ กลับไปเลี้ยงครอบครัว
ไม่ออกจากบ้าน = ไม่มีเงิน
แม่ค้าขายข้าวเหนียวหมู ริมถนน ย่านตลาดจตุจักร เปิดเผยว่า ทุกวันนี้จะออกมาขายของเวลาประมาณ 7.00 น.และจะกลับเข้าบ้านช่วงสายๆ ก่อนหน้า ปัญหาฝุ่นไม่ได้มีความรุนแรงขนาดนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าได้รับผลกระทบต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่ปัจจุบัน สุขภาพเริ่มแย่ มีการแสบคอ และไอเป็นประจำ แต่เนื่องจากต้องทำอาชีพขายของข้างทาง มันก็เลือกไม่ได้ ที่จะต้องออกมาเผชิญฝุ่นแบบนี้ เพราะถ้าไม่ออกมาขายของ ก็จะไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทุกวันนี้ทำได้เพียงอดทน และใช้หน้ากากอนามัยในการป้องกันเท่านั้น
อีกหนึ่งอาชีพ ที่ต้องทนกับฝุ่นควัน เช่นกัน นั่นก็คือ “อาชีพมอเตอร์รับจ้าง” โดยวินมอเตอร์ไซต์ รายหนึ่ง ระบุกับทีมข่าวว่า ทุกวันนี้สุขภาพเริ่มแย่ เนื่องจากต้องขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นเวลานาน ไหนจะเผชิญกับฝุ่น pm2.5 และควันรถยนต์ตามท้องถนน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ทุกวันนี้ตนเองก็ทำได้แค่สวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันเบื้องต้นเท่านั้น
คนงานก่อสร้าง นับเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่เผชิญกับฝุ่นโดยตรง เพราะสาเหตุหลักของ pm2.5 มาจากการก่อสร้าง โดยคนงาน ระบุว่า ตนเป็นกรรมกรก่อสร้างตามไซต์งานต่างๆ กับหลายๆ บริษัทใน กทม. มาหลายปี ยอมรับตรงๆ ว่า อาชีพก่อสร้าง มันไม่เหมาะกับการใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากเวลาทำงานจริงๆ ไม่ค่อยถนัด จึงใส่บ้าง ไม่ใส่บ้าง ถามว่า ปัญหาฝุ่นตอนนี้ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพไหม ตนมองว่า หรือร่างกายอาจจะคุ้นชินกับสภาวะแบบนี้ไปแล้ว เพราะทำงานตากแดด ตากฝุ่น มานานหลายปี
แต่อย่างไรก็ตาม ‘คนงาน’ รายนี้ ระบุเพิ่มเติมทิ้งท้ายว่า ปัญหาสุขภาพตอนนี้ภายนอกมองว่า ร่างกายอาจปรับสภาพได้ แต่ภายในอาจจะรอดูระยะยาว เพราะถึงยังไงก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว ต้องทำงานอาชีพนี้อยู่ดี เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะเอาอะไรกิน
ในปัจจุบันอาชีพที่ต้องเผชิญปัญหา ‘ฝุ่น’ ไม่ใช่มีแค่อาชีพ ‘แม้ค้า-วินมอเตอร์ไซต์-คนงานก่อสร้าง’ แต่ยังมีอาชีพอื่นๆ อีก เช่น พนักงานกวาดขยะ ตำรวจจราจร คนขับรถ กระเป๋ารถเมล์ร้อน พนักงานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
ทำอย่างไร ให้คนกลุ่มนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บนความเสี่ยงของปัญหาฝุ่น pm2.5 นี่คือ โจทย์ใหญ่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของ ‘คนไทย’ โดยเฉพาะ ‘คนกรุง’ ได้กลับมาหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล ได้ประกาศ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจังและยั่งยืน เพื่อยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติ รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น อากาศสะอาด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าแก้ไข พูดคุยกับทุกฝ่าย ทั้งในและนอกประเทศ มีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ปัญหามีความเข้มข้นมากขึ้น จึงมีการสั่งการเร่งสื่อสารให้ประชาชนและเกษตรกรทราบและเข้าใจถึงการทำการเกษตรที่ต้องไม่มีการเผา รวมถึงให้เข้าใจถึงจุดกำเนิดของ PM 2.5 ที่จะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาพของประชาชนด้วย
ภาพ TNNOnline