DUSIT พร้อมเปิด Dusit Thani BKK ก.ย.นี้ บล.ทรีนีตี้แนะ "ซื้อ" เป้า 14 บ.

#DUSIT #ทันหุ้น – บล.ทรีนีตี้วิเคราะห์หุ้น DUSIT ระบุว่า DUSIT จะพร้อมเปิด Dusit Thani Bangkok ในเดือน ก.ย. 2567
รายได้กลุ่มโรงแรมและอาหารเป็นแรงหนุนในการเติบโต โดย RevPar ของทั้งกลุ่มอยู่สูงกว่าช่วง Pre-COVID
คาด 3Q67 อาจยังขาดทุนเล็กน้อย เนื่องจากยังเป็นช่วง Low Season
Dusit Thani Bangkok พร้อมให้บริการทันช่วง High Season ท่องเที่ยว
คาดกำไรปี 2567 ที่ 101 ล้านบาท หนุนโดยโรงแรมในประเทศไทย และเติบโตโดดเด่นในปี 2568
แนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 14.00 บาท จากเดิม 13.50 บาท
2Q67 ขาดทุนเนื่องจากเป็นช่วง Low Season
รายงานขาดทุนสุทธิ 2Q67ที่ 131 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิที่ 122 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลงจาก 2Q66 ที่ 186 ล้านบาท
รายได้จากกลุ่มโรงแรม ยังคงเติบโตได้ 15% YoY โดยอัตราการเข้าพักของโรงแรมในประเทศไทย อยู่ที่ 70% สูงกว่า 2Q66 ที่ 67% และ ReVPar ของโรงแรมที่เป็นเจ้าของเติบโต 61.5% YoY และสูงกว่าช่วง Pre-COVID 54.4%โดยปัจจุบันมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 56 แห่ง ใน 18 ประเทศ
รายได้จากกลุ่มอาหาร ใน 2Q67 เติบโต 33% YoY โดยการเติบโตหนุนโดยผลประกอบการที่ดีจาก Epicure โดยใน 1H67 ได้เพิ่มจำนวน Contract ใหม่จำนวน 10 Contracts รวมถึงสัญญาใหม่ที่ฮ่องกงที่เริ่มรับรู้รายได้ในช่วง 2067 ส่งผลให้ปัจจุบันให้บริการใน 4ประเทศ
รายได้จากกลุ่มการศึกษา ยังคงถูกกดดันจาก Le Cordon Bleu จากการแข่งขันที่สูงขึ้นของโรงเรียนสอนทำอาหาร และ The Food School ที่ยังอยู่ในช่วง Ramp Up จึงส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในช่วงแรกสูง อย่างไรก็ดี Dusit Thani College ยังคงมีจำนวน Enrollment ที่เพิ่มขึ้น
คาดปลายเดือน ก.ย. 2567จะเปิดบริการโรงแรม Dusit Thani Bangkok ตามแผน หนุน RevPar โรงแรมในประเทศให้สูงขึ้น
โครงการ Dusit Residences ยังคงคาดว่าจะโอนได้ช่วงปลายปี 2568 โดยปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 80% และตั้งเป้ายอดขายที่ 85% ในปี 2567
คาดปี 2567พลิกเป็นกำไร
คาด 3Q67กลุ่มโรงแรมยังมีผลประกอบการให้เคียง 2Q67เนื่องจากยังเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยและ Maldives อย่างไรก็ดี เราคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเนื่องจากจะมี Pre-Opening Cost จากโครงการ Dusit Thani Bangkok ที่จะเปิดบริการในเดือน ก.ย. 2567โดยคาดว่า ADR จะสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ถึง 20% ซึ่งจะส่งผลให้ RevPar เฉลี่ยทั้ง Port มีการปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว อย่างไรก็ดี เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2567 ลงเป็น 101 ล้านบาท จาก 138ล้านบาท จากการปรับคาดการณ์รายได้กลุ่มอาหารลง แต่ในปี 2568เราคาดรายได้จากกลุ่มอาหารจะเติบโตจากการที่ Savor Eats เริ่มมีรายได้จากกลุ่ม B2B เพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการ Dusit Residences
บล.ทรีนีตี้ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท
บล.ทรีนีตี้แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 14.00 บาท จากเดิม 13.50 บาท ด้วยวิธี DCF จาก WACC ที่ 6.1% โดยปี 2567คาดผลการดำเนินงานพลิกกลับเป็นกำไร และกำไรเติบโตก้าวกระโดดในปี 2568 จากโครงการ Dusit Central Park
ปัจจัยเสี่ยง
การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวช้ากว่าคาด เงินเฟอที่สูงขึ้น กดดัน Purchasing Power ของลูกค้า และเพิ่มต้นทุนให้บริษัท ความผันผวนของค่าเงินบาท