รีเซต

ชาวอมก๋อย 8 หมู่บ้าน ประชุมค้าน โครงการผันยวม แฉทีมจัดทำอีไอเอมั่ว อ้างชื่อชาวบ้าน

ชาวอมก๋อย 8 หมู่บ้าน ประชุมค้าน โครงการผันยวม แฉทีมจัดทำอีไอเอมั่ว อ้างชื่อชาวบ้าน
ข่าวสด
12 มีนาคม 2565 ( 12:18 )
61
ชาวอมก๋อย 8 หมู่บ้าน ประชุมค้าน โครงการผันยวม แฉทีมจัดทำอีไอเอมั่ว อ้างชื่อชาวบ้าน

ชาวอมก๋อย 8 หมู่บ้าน ประชุมค้าน โครงการผันยวม แฉทีมจัดทำอีไอเอมั่ว อ้างชื่อชาวบ้านใส่ในรายงาน แถมขู่ยึดที่ดิน หลายชุมชนเตรียมจัดงานวันหยุดเขื่อนโลก 14 มี.ค.

 

วันที่ 12 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.65 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน จัดประชุมเพื่อหารือถึงกรณีที่โครงการผันน้ำยวม (โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม) ของกรมชลประทาน และโครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูงลำพูน-สบเมย ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะผ่านพื้นที่หลายหมู่บ้านในเขต อ.อมก๋อย

 

โดยมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ประธานสภาอบต. จาก 8 หมู่บ้านเข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเยาวชน และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึง นายวันชัย ศรีนวน ผู้ใหญ่บ้านแม่งูด อ.ฮอด ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากโครงการเข้าร่วมหารือด้วย

ทั้งนี้ที่ประชุมได้วิพากษ์วิจารณ์ทั้ง 2 โครงการอย่างกว้างขวาง โดยทั้งหมดต่างรู้สึกกังวลใจเนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับข้อมูลอย่างแท้จริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในรายละเอียด และชาวบ้านต่างก็หวั่นเกรงเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสองโครงการขนาดใหญ่นี้จะทำลายผืนป่าผืนใหญ่และทับที่ทำกินของชาวบ้าน

 

ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงซึ่งไม่เข้าใจภาษาไทย แต่กลับถูกบางหน่วยงานแอบอ้างชื่อในรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ดังนั้นทั้งหมดจึงไม่ต้องการโครงการดังกล่าว

 

ขณะที่ นายวันชัย ศรีนวน ผู้ใหญ่บ้านแม่งูด เล่าถึงการที่ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในตำบลนาคอเรือทั้งหมด ร่วมกันแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโครงการผันน้ำยวมโดยได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ เพราะการทำอีไอเอที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

 

นายพิบูลย์ ธุวมณฑล เครือข่ายชาติพันธุ์อมก๋อย กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในพื้นที่บ้านแม่สอใต้ เพื่อสำรวจที่ดิน แล้วบอกว่าชาวบ้านว่าโครงการนี้ไม่สามารถคัดค้านได้ และบอกอีกว่าหากชาวบ้านที่เป็นเจ้าของนาไม่ยอมเซ็นก็จะโดนยึดที่นาไปฟรีๆ แต่เมื่อชาวบ้านถามว่าจะมีการเยียวยาผลกระทบอย่างไรก็ตอบชาวบ้านไม่ได้

 

นายมามุย ชาวบ้านจากหมู่บ้านแม่สอ กล่าวว่ามีคนของทางการมาแจ้งที่ดินของตนซึ่งมีอยู่ราว 10 ไร่ซึ่งเป็นที่ดินมรดกจากบิดา จะต้องถูกนำดินมาถมเป็นกองดินพร้อมๆกับที่ดินของเพื่อนบ้านอีก 3 รายรวมเป็น 40 ไร่เนื่องจากจะต้องขุดอุโมงค์โครงการผันน้ำยวม

 

เมื่อตนถามถึงค่าชดเชยหรือรายละเอียดก็ไม่ได้รับคำตอบ พร้อมกันนั้นบุคคลกลุ่มดังกล่าวได้ขู่ว่าหากไม่เซ็นชื่อก็จะถูกยึดที่ดินโดยไม่ได้รับค่าชดเชยใดๆ ในที่สุดตนจึงยอมเซ็นชื่อโดยที่ยังแทบไม่รู้ข้อมูลใดๆ


นายวังเปา ชาวบ้านห้วยส้มกล่าวว่า คนของทางการกลุ่มหนึ่งได้มาหาตนเช่นกันและต้องการที่ดินทำกินที่มีอยู่ 7 ไร่ ไปทำเป็นกองดินของโครงการผันน้ำ แต่ตนไม่ยอมเซ็นชื่อเพราะไม่แน่ใจในกลุ่มคนดังกล่าว พวกเขาจึงเซ็นชื่อแทนตน

 

“ผมขอยืนยันว่าไม่ให้ที่ดินไปทำกองดินแน่ ต่อให้จ่ายค่าชดเชยเท่าไรก็ไม่เอาเพราะที่ดินผืนนี้เป็นมรดกที่พ่อแบ่งให้ไว้ทำมาหากกิน เราได้เงินมาเดี๋ยวก็หมดไป แต่ที่ดินเราสามารถทำกินได้ไปถึงลูกหลาน” นายวังเปา กล่าว

 

ขณะที่ผู้นำหมู่บ้านกะเบอะดิน กล่าวว่าจุดกองดินจากการขุดเจาะอุโมงค์ ที่บ้านตุงลอย ในอีไอเอที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดทำระบุว่าจะใช้พื้นที่ร้อยกว่าไร่ แต่ข้อมูลที่มีอยู่กลับไม่ตรงกัน ทำให้ชาวบ้านหวั่นใจมาก

 

“โครงการก่อสร้างสายไฟฟ้าแรงสูงและอุโมงค์ผันน้ำ ผู้นำชุมชนของเราพอทราบข้อมูลบ้าง แต่ชาวบ้านในชุมชนอื่นแทบไม่รู้ข้อมูลโครงการใดๆ เลย มีอาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร เอาแผนที่เข้ามาสำรวจ แต่ชาวบ้านไม่รู้ว่าเขารับทำ EIA จากกรมชลประทาน เมื่อมีคนไปเก็บข้อมูลที่หมู่บ้าน แต่ได้พบแค่พ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) ชาวบ้านไม่ได้รับข้อมูลด้วย เจ้าหน้าที่ที่มาเก็บข้อมูลเขาก็บอกว่าไม่ใช่กรมชลประทาน แต่รับคำสั่งมาให้ทำงานมาถามชาวบ้านมาเก็บข้อมูลเท่านั้น” ตัวแทนเยาวชนหมู่บ้านกะเบอะดิน กล่าว

 

นายคัมภีร์ สมัยอาทร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอมก๋อย กล่าวว่าถ้าโครงการใดจากส่วนกลางเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ไม่มีปัญหา แต่โครงการผันน้ำยวมส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเพราะจะมีกองดินขนาดใหญ่ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน ขณะที่โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านก็ทำให้ชาวบ้านสูญเสียที่ดินทำกิน

 

นอกจากนี้เรื่องความเชื่อทางจิตวิญญาณโดยชาวบ้านกะเหรี่ยงมีข้อห้ามเกี่ยวกับการผันน้ำข้ามลุ่มเพราะแม่น้ำทั้งสองไม่ถูกกัน หากเอามารวมกันจะทำให้ผีน้ำโกรธและชาวบ้านจะมีปัญหาสุขภาพและเสียชีวิต ดังนั้นโครงการดังกล่าวจึงท้าทายความเชื่อดังกล่าว ชาวบ้านจึงไม่เห็นด้วย

 

“หน่วยงานราชการต้องมาทำความเข้าใจกับชาวบ้านอย่างแท้จริงเพราะตอนนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข้อมูล หลายหมู่บ้านที่ทั้ง 2 โครงการผ่าน ยังไม่ทราบเลยว่าจะโดนอะไรบ้าง ควรมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ไม่ใช่มาถ่ายภาพกันแชะๆ แล้วไปเขียนในอีไอเอว่าได้ไปสอบถามชาวบ้านมาแล้ว” นายก อบต.อมก๋อย กล่าว

 

ทั้งนี้โครงการผันน้ำยวม กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งมีการร้องเรียนในประเด็นการขาดมีส่วนร่วมและการใช้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงในการจัดทำ EIA

 

อย่างไรก็ตามกรมชลประทานได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดทำโครงการเพิ่มอีก คือโครงการศึกษาสร้างการรับรู้ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก

ล่าสุดมีผู้นำชุมชนบางส่วนได้รับจดหมายจากโครงการศึกษาวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพลแนวส่งน้ำยวม ระบุว่ากรมชลประทานได้ว่าจ้างบริษัทปัญญา คอนซัลแตนท์ และอีก 2 บริษัททำโครงการโดยได้กำหนดให้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการและสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามผู้นำชุมชนในหลายหมู่บ้านได้ประกาศว่าไม่ต้องการให้หน่วยงานรับจ้างเหล่านี้เข้าพบเนื่องจากได้ยื่นร้องเรียนไปยัง กมธ. และกสม. แล้ว

 

อนึ่งในวันที่ 14 มีนาคม 2565 ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำยวม-เงา-เมย-สาละวินจะร่วมกันจัดงานเนื่องในวันหยุดเขื่อนโลกขึ้นที่ริมแม่น้ำยวมบริเวณหมู่บ้านแม่เงา เพื่อแสดงออกว่าชาวบ้านไม่ต้องการให้มีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยวมตามโครงการผันน้ำของกรมชลบประทาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง