TOP เปิดตัว CEO คนใหม่ เดินหน้าโครงการ CFP-ขยายตลาดสู่ตปท.
#TOP #ทันหุ้น-TOP เปิดตัว"บัณฑิต ธรรมประจำจิต" เปิดตัว CEO คนใหม่ เร่งดำเนินโครงการสำคัญตามแผนกลยุทธ์ เช่น โครงการพลังงานสะอาด หรือ Clean Fuel Project (CFP) ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดไปต่างประเทศในระดับภูมิภาค พร้อมเดินหน้าด้วยแนวคิด “TOP for The Great Future” มุ่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพื่อสร้างอนาคตที่ยิ่งใหญ่ สานต่อวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน”
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า เป้าหมายหลักในปีนี้ของบริษัท จะเป็นการเร่งดำเนินโครงการสำคัญตามแผนกลยุทธ์ เช่น โครงการพลังงานสะอาด หรือ Clean Fuel Project (CFP) ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดไปต่างประเทศในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะ ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย พร้อมทั้งเร่งศึกษาในการต่อยอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง และแสวงหาโอกาสเข้าสู่ธุรกิจที่มีมูลค่าสูง เช่น ธุรกิจสารเคมีที่ใช้เพื่อการยับยั้งและกำจัดเชื้อโรค รวมถึงสารลดแรงตึงผิวที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Disinfectants & Surfactants)
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับบทบาทใหม่ในบ้านหลังเดิม โดยภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ สานต่อการทรานส์ฟอร์มธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ตามเส้นทางยุทธศาสตร์หลัก 3V คือ 1) Value Maximization ต่อยอดจากธุรกิจปิโตรเลียมไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (High Value Products) 2) Value Enhancement เสริมความแข็งแกร่งในประเทศ ขยายตลาดและกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ต่างประเทศในระดับภูมิภาค รองรับการเติบโตของธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ ในอนาคต รวมทั้งตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น และ 3) Value Diversification ลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีมูลค่าสูง (High Value Business) และ ธุรกิจ New S-Curve อื่นๆ ให้สอดคล้องต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก"ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ TOP กล่าว
**ปรับเป้าหมายธุรกิจกลุ่มไทยออยล์
จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้าหมาย ธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ ในปี 2030 สัดส่วนกำไรจากธุรกิจปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงอยู่ที่ 40% ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่ต่อยอดจากปิโตรเคมี 30% ธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและธุรกิจใหม่ๆ 25% และธุรกิจไฟฟ้า 5% เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ยังได้เสนอแนวคิด “TOP for The Great Future” ขับเคลื่อนธุรกิจให้มั่นใจว่า ไทยออยล์จะบรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ได้อย่างสำเร็จ โดยคำว่า “TOP” มาจาก
T - Transformation ทรานสฟอร์มธุรกิจในทุกมิติ ให้มั่นใจว่า องค์กรพร้อมขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายใหม่ สร้างธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการมุ่งไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มศักยภาพความสามารถของพนักงานให้รองรับการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ พร้อมทั้งยกระดับนวัตกรรม มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ตอบสนองแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ให้องค์กรขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
O - Operational to Business Excellence ยกระดับการทำงานปัจจุบันจาก Operational Excellence ไปสู่ Business Excellence สร้างองค์กรที่ขับเคลื่อนโดยระบบงานระดับ World Class ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและทีมงานมืออาชีพ สู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจ
P - Partnership & Platform สร้างการเติบโตด้วยแนวทางความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจร่วมกัน รวมถึงใช้ประโยชน์สูงสุดจากแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่ให้เข้าถึงธุรกิจใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนการขยายธุรกิจในอนาคต”
“ไทยออยล์ จะยังคงมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน และก้าวสู่การเป็นองค์กร 100 ปีต่อไป” นายบัณฑิตฯ กล่าว