รีเซต

หนังรถไฟในตำนาน ที่เล่าใหม่ในงานพิธีเปิดโอลิมปิก 2024

หนังรถไฟในตำนาน ที่เล่าใหม่ในงานพิธีเปิดโอลิมปิก 2024
TNN ช่อง16
27 กรกฎาคม 2567 ( 16:41 )
29
หนังรถไฟในตำนาน ที่เล่าใหม่ในงานพิธีเปิดโอลิมปิก 2024

หลาย ๆ คนที่ได้รับชมพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ก็น่าจะตื่นตาตื่นใจกับศิลปะ นวัตกรรม และตำนานหลายเรื่องที่เจ้าภาพอย่างประเทศฝรั่งเศสนำเสนอออกมา แต่ครั้งนี้ TNN Tech ขอนำเสนอภาพยนตร์สั้นในตำนานอย่าง L'Arrivée d'un train en gare de La Ciotat (The Arrival of a Train at La Ciotat Station) หรือ การมาถึงของรถไฟที่สถานีลาซีโอตาร์ (La Ciotat) ซึ่งเป็นอีกฉากหนึ่งของนวัตกรรมด้านภาพยนตร์ของโลกเลยทีเดียว



The Arrival of a Train at La Ciotat Station เป็นภาพยนตร์สั้นความยาว 50 วินาที ที่ออกฉายในปี 1896 กำกับโดย 2 พี่น้องลูมิแยร์ อย่าง ออกุสต์ ลูมิแยร์ (Auguste Lumière) และ หลุยส์ ลูมิแยร์ (Louis Lumière) โดยได้นำเครื่องชมภาพยนตร์ที่ชื่อ คิเนโตสโคป (Kinetoscope) ที่พัฒนาโดย โธมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) และวิลเลียม ดิกสัน (William Dickson) เมื่อปี 1889 มาต่อยอด 


เครื่อง Kinetoscope มีวิธีการดูเป็นการส่องเข้าไปในช่องเล็ก ๆ จึงทำให้ดูได้ทีละคน แต่พี่น้องตระกูลลูมิแอร์ก็พัฒนาต่อยอดมาเป็นซีเนมาโตกราฟ (Cinematograph) ฉายขึ้นจอ ดูได้ทีละหลายคนพร้อมกัน จนกระทั่งเผยแพร่ไปทั่วโลก และกลายมาเป็นที่มาของคำว่า ซีเนมา (Cinema) หรือภาพยนตร์ มาจนกระทั่งปัจจุบัน


สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ หากมองในมุมของเราในปัจจุบัน เนื้อหาไม่มีอะไรหลากหลาย เป็นเพียงรถไฟที่แล่นเข้ามายังชานชาลารถไฟแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่หากมองในมุมของผู้คนในยุคสมัยนั้นอาจแตกต่างออกไป โดยตามตำนานเล่าว่า ในรอบปฐมทัศน์ของการฉายภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ที่เมืองลียง (Lyon) ผู้คนที่ได้ดูต่างหวาดกลัวรถไฟที่กำลังแล่นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลัวว่ามันจะพุ่งชน หลายคนลุกจากที่นั่ง กรีดร้อง และวิ่งไปที่ด้านหลังของห้องฉายภาพยนตร์ 


ตำนานนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ไม่มีหลักฐานปรากฏ แต่ความจริงที่ว่ามันเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์นวัตกรรมด้านภาพยนตร์ของโลกนั้นไม่อาจปฏิเสธ


ความหวาดกลัวที่สร้างให้ผู้คนในวันนั้น พัฒนาต่อเนื่องมาเป็นภาพยนตร์หลากหลายที่สร้างอารมณ์ความรู้สึกร่วมมากมายให้ผู้ชม ทั้งสุข เศร้า ตื่นเต้น และกลายเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมในกระแสสังคมโลกปัจจุบัน จึงเหมาะสมแล้วที่จะถูกเล่าขานระหว่างเส้นทางจุดคบไฟของมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิก ปารีส 2024



ที่มาข้อมูล MOMAIcopilotsArchive, Wikipedia

ที่มารูปภาพ Wikipedia

ข่าวที่เกี่ยวข้อง