อิสราเอลพบคนติดเชื้อ “โควิดเดลตาพลัส” รายแรก
วันนี้ ( 20 ต.ค. 64 )กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล เปิดเผยว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยพันธุ์ใหม่ มีชื่อว่า “AY4.2” หรือเรียกว่า “เดลตา พลัส” ที่กลายพันธุ์มาจาก “เดลตา” เป็นรายแรกของประเทศ เป็นเด็กชายอายุ 11 ขวบ ตรวจพบในขณะที่เด็กชายได้รับการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่สนามบินนานาชาติเบน กูเรียน นอกเมืองเทลอาวิฟของอิสราเอล เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศโมลโดวา เด็กชายถูกแยกกักตัวแล้ว และทางรัฐบาลอิสราเอลกำลังเปิดสอบสวนเกี่ยวกับโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยที่เพิ่งพบใหม่นี้
โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยพันธุ์ใหม่ AY4.2 หรือเรียกอีกชื่อว่า “เดลตา พลัส” เป็นโควิดกลายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นสายพันธุ์ย่อยเกิดจากการกลายพันธุ์มาจาก “เดลตา” อีกต่อหนึ่ง เพิ่งตรวจพบในหลายประเทศยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร และพบในสหรัฐฯ ด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนถึงความร้ายแรงของสายพันธุ์ย่อยใหม่นี้
ด้านสหราชอาณาจักรรายงานว่า สายพันธุ์ “เดลตา พลัส” กำลังระบาดเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (19 ตุลาคม) ตรวจพบผู้ติดเชื้อ AY4.2 ในสหราชอาณาจักรแล้วร้อยละ 6 ของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในสหราชอาณาจักร โดยเดลตายังคงเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดเป็นหลักในสหราชอาณาจักรอยู่
ก่อนหน้านี้ เริ่มมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย AY4.2 ในสหรัฐฯ จำนวน 3 ราย ส่วนในเดนมาร์กตรวจพบความชุกในการติดเชื้อที่ร้อยละ 2 แต่ต่อมาพบการติดเชื้อลดลง และตรวจพบในประเทศยุโรปอื่น ๆ อีก แต่พบน้อยมาก
ด้านโฆษกของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ระบุเมื่อวานนี้ (19 ตุลาคม) ว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังจับตาการระบาดเพิ่มขึ้นของโควิด-19 ที่เกิดจากสายพันธุ์ AY4.2 ในประเทศอย่างใกล้ชิด แต่ยืนยันว่า เบื้องต้นในขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่า AY4.2 จะสามารถระบาดได้ง่ายกว่าเดลตาแต่อย่างใด
ด้านศาสตราจารย์ ฟรองซัวส์ บัลลูซ์ แห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจ ออฟ ลอนดอน ระบุว่า การเกิดขึ้นของ AY4.2 ไม่ได้ร้ายแรงเท่ากับเมื่อครั้งที่ตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์ “อัลฟา” และ “เดลตา” ที่พบว่าติดต่อได้ง่ายขึ้นกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมถึงร้อยละ 50 แต่ AY4.2 มีความชุกในการระบาดค่อนข้างต่ำ.