"มาครง" เดินทางถึงจีน เตรียมพบ "สี จิ้นผิง" กระชับมิตรครบ 60 ปี ฝรั่งเศส-จีน

การเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเยือนจีนในฐานะแขกของรัฐครั้งที่สี่ของมาครง และเป็นการเยือนตอบแทนหลังจากการเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีความสำคัญในโอกาสครบรอบ 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสถือเป็นประเทศตะวันตกขนาดใหญ่ประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ในระดับเอกอัครราชทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน

ระหว่างการเยือนในสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีสีมีกำหนดหารือกับมาครงร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศสภายใต้สถานการณ์ใหม่ ทั้งสองผู้นำยังจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นร้อนระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคที่สำคัญ

มาครงเดินทางพร้อมด้วยนายฌอง-โนแอล บาโรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส, เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ และคณะผู้แทนภาคธุรกิจ

การเยือนจีนของมาครง ซึ่งคาดว่าจะมีความหมายสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาคมระหว่างประเทศ

ตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภายใต้การกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ของผู้นำทั้งสองประเทศ, การแลกเปลี่ยนในทุกระดับมีความใกล้ชิดมากขึ้น, ความร่วมมือเชิงปฏิบัติให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด และความร่วมมือในประเด็นพหุภาคียังคงแข็งแกร่ง

การเยือนตอบแทนของมาครง สะท้อนถึงความสำคัญอย่างมากที่ฝรั่งเศสมอบให้กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยทั้งสองฝ่ายต่างคาดหวังที่จะกระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างการเยือนครั้งนี้

การเดินทางของมาครงเกิดขึ้นหกวันหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กับเอมมานูแอล บอนน์ ที่ปรึกษาด้านการทูตของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ตามคำร้องขอของฝ่ายฝรั่งเศส

หวัง ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกลางฝ่ายกิจการต่างประเทศ แสดงความหวังว่าฝรั่งเศสจะสนับสนุนให้สหภาพยุโรป (EU) ดำเนินนโยบายที่เป็นบวกและสมเหตุสมผลต่อจีน

บอนน์กล่าวว่า ฝรั่งเศสยึดมั่นในประเพณีการดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างอิสระ ยึดถือหลักการจีนเดียวอย่างมั่นคง และเข้าใจฐานะอันชอบธรรมของจีนในประเด็นไต้หวัน

ในปีหน้า ฝรั่งเศสมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ หรือจี7 (G7) ขณะที่จีนมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 33