ไทม์ไลน์ศพที่ 81-82 พบมีโรคประจำตัว ป่วย 'โควิด' ทำอาการทรุดก่อนเสียชีวิต

ไทม์ไลน์ศพที่ 81-82 เป็นชายชาวอุบลฯ พบมีโรคประจำตัว ก่อนปอดอักเสบรุนแรง อีกรายเป็นชาวสมุทรสาคร ปอดอักเสบรุนแรงเช่นกัน ก่อนติดโควิดเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 ราย ติดเชื้อในประเทศ 132 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย หายป่วยเพิ่ม 772 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 24,714 ราย รักษาหายสะสม 22,883 ราย ยังรักษาอยู่ 1,749 ราย เสียชีวิตสะสม 82 ราย หากนับเฉพาะระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อสะสม 20,477 ราย หายป่วย 18,706 ราย เสียชีวิต 2 ราย
สำหรับไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตนั้น รายแรกเป็นชายอายุ 62 ปี ค้าขายผัก จ.อุบลราชธานี มีโรคเบาหวาน ไต และความดันโลหิตสูง มีอาการไอแห้ง และไม่มีไข้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ทรุดลงวันที่ 8 ม.ค. ไอมากขึ้น เสมหะมากขึ้น หายใจหอบเหนื่อย วันที่ 9 ม.ค. ผลเอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง ตรวจพบโควิด 19 นำเข้าห้องความดันลบ วันที่ 10-13 ม.ค. อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว และมาเสียชีวิตวันที่ 14 ก.พ. เวลา 09.15 น.
ส่วนอีกรายเป็นชายชาวสมุทรสาครอายุ 78 ปี เป็นพ่อบ้าน ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปไหน วันที่ 16-17 ม.ค. ลูกสาวมีผลยืนยันเป็นผู้ป่วยก่อนหน้านี้มาเยี่ยมที่บ้าน วันที่ 19-20 ม.ค. เริ่มมีไอแห้ง เจ็บคอ วันที่ 22 ม.ค. ไอมากขึ้นไปที่ รพ.ตรวจพบเชื้อโควิด 19 เอกซเรย์ปอดอักเสบรุนแรง อาการทรุดลงรวดเร็ว วันที่ 30 ม.ค. อาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ใส่ท่อช่วยหายใจ มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วย วันที่ 7 ก.พ. อาการแย่ลง ไตวายเฉียบพลัน ความดันโลหิตลดลง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเสียชีวิตวันที่ 13 ก.พ. เวลา 18.19 น.
“ลูกหลานไปเยี่ยมผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว ท่านอาจยังสบายดี ลูกหลานไม่ทราบว่าติดเชื้อ นำเชื้อไปแพร่ผู้สูงอายุได้ เมื่อผู้สูงอายุมีโรปคระจำตัวติดเชื้ออาการทรุดลงรวดเร็ว ถึงมือแพทย์พยาบาลการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก” พญ.อภิสมัย กล่าว
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
