บล.กสิกรฯแนะ "ซื้อ" ESSO Upside สูงสุดหุ้นกลุ่มโรงกลั่น
บล.กสิกรไทย ระบุว่า ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ หรือ IFA แนะนำให้ปฏิเสธการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ESSO โดยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 12.00 บาท คาดราคาหุ้น ESSO จะกลับสู่ระดับพื้นฐานภายหลังสิ้นสุดช่วงระยะเวลาเสนอซื้อหลักทรัพย์
ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแนะนำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยปฏิเสธคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ BCP เนื่องจากราคาเสนอซื้อต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชีปรับปรุงแล้ว
การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ESSO เพิ่มขึ้นที่ 1.14 - 1.37 หมื่นลบ. ส่วนใหญ่จากที่ดิน แม้ว่า ROE จะลดลงเหลือ 16% แต่ความสามารถในการกู้ยืมเพื่อขยายธุรกิจจะสูงขึ้น
Investment Highlights
IFA แนะนำให้ปฏิเสธคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ BCP ESSO รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) ว่าบริษัท แคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ได้ออกคำแนะนำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยปฏิเสธคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ BCP เนื่องจากราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่ 9.8986 บาท/หุ้น ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นพื้นฐานขั้นต่ำของบริษัทฯ คำนวณโดยวิธีปรับปรุงมูลค่าตามบัญชี (adjusted book value approach)โดย IFA คำนวนมูลค่าพื้นฐานของ ESSO ได้ที่ 10.70 -11.38 บาท/หุ้นสูงกว่าราคาเสนอซื้อ 8.12-14.96%
ลดโอกาสที่ BCP จะได้รับสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเติม ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำของบล.กสิกรไทยที่ว่านักลงทุนควรปฏิเสธคำเสนอซื้อ เนื่องจากราคาเป้าหมายของ ESSO ของบล.กสิกรไทยอยู่ที่ 12.00 บาท ด้วย upside ที่ค่อนข้างกว้าง เชื่อว่าเมื่อช่วงระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อสิ้นสุดลง ราคาหุ้น ESSO จะกลับมาสู่ระดับพื้นฐาน ซึ่งน่าจะเป็นระดับพรีเมี่ยมเมื่อเทียบกับหุ้นโรงกลั่นน้ำมันคู่แข่งในประเทศ อันเป็นผลมาจาก ROE ที่สูงกว่า หากมองจากคำแนะนำของ IFA ฉบับนี้ บล.กสิกรไทยคิดว่าความเป็นไปได้ที่ BCP จะสามารถซื้อหุ้น ESSO ได้เพิ่มเติมนั้นมีน้อยลง
Adjusted book value คำนวณเป็นมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 1.14-1.37 หมื่นลบ. หากพิจารณาจาก adjusted book value ของ IFA ที่ 10.70 -11.38 บาท แสดงว่าสินทรัพย์ของ ESSO จะถูกตีราคาเพิ่มอีก 1.14- 1.37 หมื่นลบ. ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการประเมินราคาที่ดินของโรงกลั่นน้ำมันศรีราชาและสถานีบริการน้ำมัน 279 แห่งเป็นหลัก โดยมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะถูกรับรู้ในกำไรสะสมโดยตรง และไม่ผ่านงบกำไรขาดทุน ทั้งนี้ แม้ว่า ROE ของ ESSO อาจลดลงจาก 21% เหลือประมาณ 16% แต่คาดว่าความสามารถในการกู้ยืมเพื่อขยายธุรกิจในอนาคตจะสูงขึ้น
กำไรพิเศษที่ระดับของ BCP น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ บล.กสิกรไทยคาดว่า BCP จะรับรู้กำไรจากการซื้อในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม (bargain purchase) จากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ของ ESSO ในครั้งนี้ ซึ่งหากพิจารณาตัวเลขการประเมินราคาสินทรัพย์ของ ESSO ดังกล่าวข้างต้น upside จาก bargain purchase ต่อกำไรของ BCP อาจอยู่ที่ 1.5-2.7 พันลบ. ในไตรมาส 3/2566
Valuation and Recommendation
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 12.00 บาท บล.กสิกรไทยยังคงคำแนะนำที่ว่าผู้ลงทุนควรสะสมหุ้น ESSO ก่อนสิ้นสุดกระบวนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ BCP และปฏิเสธคำเสนอซื้อ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ หุ้น ESSO จะกลับมาซื้อขายที่ระดับราคาอ้างอิงพื้นฐาน โดยมี upside สูงที่สุดในบรรดาหุ้นโรงกลั่นของไทย นอกจากนี้ ESSO ยังมีโอกาสอีกมากสำหรับการปรับปรุงหลังมาอยู่ภายใต้กลุ่ม BCP โดยการผนึกกำลังร่วมกันนี้ยังถือเป็น upside อีกประการหนึ่ง ซึ่งจะช่วยหนุนโมเมนตัมกำไรของ ESSO ในระยะยาว ดังนั้น บล.กสิกรไทยจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ESSO ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 12.00 บาท