ออสเตรเลียสาหัส! ติดโควิดกว่า500คน มากสุดนับตั้งแต่ระบาด

วันนี้ (27ก.ค.63) ทางการรัฐวิกตอเรีย รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มสูงสุดแบบรายวัน ทำให้ต้องออกมาเตือนประชาชนว่า มาตรการล็อกดาวน์ 6 สัปดาห์ อาจขยายออกไปอีก หากคนที่รู้สึกไม่สบาย ยังคงออกไปทำงานนอกบ้านอยู่อีก รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 532 คน ซึ่งถือว่า มากที่สุด นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในออสเตรเลีย และมีผู้เสียชีวิตอีก 6 ราย ส่งผลให้ยอดรวมสะสมเป็น 77 ราย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น ปรากฏว่า 5 ราย อยู่ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า จำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นมากในรัฐวิกตอเรีย แสดงให้เห็นว่า มีการแพร่เชื้อระหว่างผู้ป่วยที่เป็นคนหนุ่มสาว ซึ่งถูกมองว่ามีความเสี่ยงต่ำและแพร่ระบาดไปยังศูนย์ดูแลคนชรา ผ่านทางสมาชิกในครอบครัว
นายแดเนียล แอนดริวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า หากผู้ใดมีอาการสูดจมูกบ่อยๆ ระคายเคืองหรือคันคอและมีไข้ ไม่ต้องไปทำงานและให้อยู่บ้าน มิเช่นนั้น จะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น ดังนั้น มาตรการล็อกดาวน์ จะไม่มีวันสิ้นสุด จนกว่าคนที่รู้สึกป่วย จะหยุดทำงานนอกบ้าน
พบว่า อัตราการเสียชีวิตในรัฐวิคตอเรีย สูงที่สุดในโลก โดยทางมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า ตลอด 4 วันที่ผ่านมา เมื่อวานนี้พบผู้เสียชีวิต 10 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5 คนเมื่อ 4 วันก่อน ซึ่งหากเปรียบเทียบยอดผู้ติดเชื้อ ถือว่ารุนแรงกว่าประเทศในแถบแอฟริกัน อย่าง นามีเบีย, เลโซโธ ที่พบว่าไวรัสเพิ่มเป็น 2 เท่า ในทุก 6 หรือ 8 วัน
ทั้งนี้ เมลเบิร์น เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด 25 ล้านคนในออสเตรเลีย และขณะนี้ มาตรการล็อกดาวน์ 6 สัปดาห์ในเมืองเมลเบิร์น ผ่านมาแล้วครึ่งทาง ซึ่งการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุด รวมถึงการห้ามประชาชนออกนอกบ้าน ยกเว้นจำเป็น เช่น ซื้ออาหาร ซื้อยา หรือออกกำลังกาย แต่การที่ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย อาจเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้นในปลายสัปดาห์นี้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE