"ภูมิธรรม" ชู บึงกาฬ โมเดลบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด เตรียมเทงบหนุนค่ายบำบัด

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการเขต 10 ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ว่า ได้ประชุมส่วนราชการเพื่อรับฟังสภาพปัญหาผลการแก้ปัญหายาเสพติด และการเตรียมความพร้อมภัยแล้ง-ภัยพิบัติ ฯลฯ โดยได้ถือโอกาสนี้ไปตรวจเยี่ยมค่ายบำบัดยาเสพติด ค่ายคืนคนดีสู่สังคม กองร้อย อส. ยังที่ว่าการอำเภอโซ่พิสัย และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอพรเจริญ ซึ่งบึงกาฬถือเป็นพื้นที่ที่มีทางเข้าออกของยาเสพติดค่อนข้างมาก แต่บึงกาฬก็มีจุดแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติด สามารถบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับพื้นที่อื่นๆ และนำเทคโนโลยีมาใช้ดำเนินการปราบปราม ขณะเดียวกันมีความโดดเด่นเรื่องค่ายฟื้นฟูยาเสพติด สามารถคืนคนดีสู่สังคมด้วยคุณภาพ ควบคู่ไปกับการปราบปราม ตามนโยบายรัฐบาลการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ตามแนวชายแดนธรรมชาติลำน้ำโขง โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วนในกระบวนการแก้ไขปัญหายาเสพติด สามารถนำเทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสารมาใช้ในการตรวจสอบในการดำเนินการ พร้อมชูเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ได้ดำเนินการ โดยที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมลงมายังพื้นที่
"เรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้มาดูคือ พื้นที่ในการฟื้นฟูบำบัดยาเสพติด ไม่ใช่ว่าเราต้องปราบอย่างเดียว ปราบอย่างเดียวแล้วหากประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ มันก็สร้างปัญหามาตรการเหล่านี้เราต้องทำควบคู่กันไป Seal Stop Safe ก็ครบวงจรอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ตนยังได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพสถานที่เพื่อเตรียมใช้ดำเนินโครงการ ค่ายคืนคนดีสู่สังคม ที่โรงเรียนชัยชนะ บ้านโนนชัยศรี ต.โนนศิลา อ.ปากคาด ด้วย
ด้าน นายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬ เขต 3 พรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้ผลักดันการสร้างค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ชี้ให้เห็นว่า แม้ค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดดำเนินการได้ผลดีในพื้นที่ แต่ยังมีอุปสรรคเรื่องของกฎ ระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวยต่อผู้ปฏิบัติงาน จนอาจทำให้เจ้าหน้าที่มีความผิด ซึ่งถือว่าส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการที่ทำหน้าที่อย่างดี โดยเรื่องนี้นายภูมิธรรมรับปากจะนำปัญหาดังกล่าวไปพิจารณาแก้ไขเพื่อคลายกฎที่เข้มลง
สำหรับนายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬ ถือเป็นหนึ่งใน สส.อีสาน ที่เดินหน้าเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อย่างเข้มข้น ตลอดจนให้ความสำคัญกับการสร้างค่ายปราบปรามยาเสพติด ด้วยการระดมทุนจากบุคคลใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการค่ายจนประสบความสำเร็จ สามารถคืนลูกหลานสู่สังคมได้อย่างต่อเนื่อง จนถูกยกย่องว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลร่วมสร้างสรรค์ประเทศไทย