รีเซต

GPSC รับCODเพิ่ม400เมก หุ้นกู้1.5หมื่นล.แห่จองล้น

GPSC รับCODเพิ่ม400เมก หุ้นกู้1.5หมื่นล.แห่จองล้น
ทันหุ้น
1 มีนาคม 2567 ( 18:25 )
58

#GPSC#ทันหุ้น-GPSC เผย ผลเสนอขายหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนให้การตอบรับที่ดี 5เท่า ปีนี้มีโรงไฟฟ้าCOD เพิ่มกว่า 400 เมกะวัตต์ จากปีก่อนอยู่ที่ 6.4 พันเมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าลงทุนเพิ่มแตะ 1.5 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 73 แย้ม ศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ทุ่มงบลงทุนปี 67 ที่ 1 หมื่นล้านบาท

 

นางสาวสุกิตตี ไชยรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า จากที่บริษัทมีการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 15,000 ล้านบาท ในวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2567 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสูงถึง 5 เท่า ซึ่งหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AA+

 

*COD มากกว่า400เมก

ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทมีโรงไฟฟ้าจะผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) มากกว่า 400 เมกะวัตต์ จากสิ้นปี 2566 ที่มีโรงไฟฟ้าCOD แล้วรวม 6,461 เมกะวัตต์ สำหรับกำลังผลิตที่จะCOD เพิ่มมาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศอินเดียจากบริษัท อวาด้า เอนเนอร์ยี่ ไพรเวท จำกัด หรือ AEPL ตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 300 เมกะวัตต์ (ตามสัดส่วนการถือหุ้น)และมาจากกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น โครงการไออาร์พีซี เฟส3 กำลังผลิต 70 เมกะวัตต์ ซึ่งจะ COD ในเดือนมีนาคม

 

รวมถึงโครงการ GLOW SPP2 Replacement กำลังผลิต 98 เมกะวัตต์ ซึ่งยูนิตที่ 1 จะCOD เดือนมีนาคม และยูนิตที่ 2 จะCOD เดือนเมษายน และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ไต้หวันที่จะ COD ทั้งโครงการจำนวน 57 ต้น ในครึ่งปีแรก2567

 

นางสาวสุกิตตี  กล่าวว่า บริษัทคงมองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น โดยเน้นพลังงานสะอาด ทั้งในประเทศอินเดีย ไต้หวัน เวียดนาม จีน ประเทศไทย ฯลฯ เพื่อให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 จากสิ้นปีที่บริษัทมีสัญญาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 9,315 เมกะวัตต์

 

*สนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก เพราะ กระบวนการผลิตไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และมีความปลอดภัย จากที่เป็นนิวเคลียร์ที่อยู่ในเรือดำน้ำ แต่ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการศึกษาทั้งการศึกษาของภาครัฐ และการศึกษาของGPSCกับพันธมิตร

 

สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท มูลค่า 15,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์นั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน อยู่ในระดับเหมาะสมตามที่เราได้เรทติ้งที่สูงระดับ AA+ สูงกว่าที่เราเสนอขาย 5 เท่า

 

สำหรับแผนการลงทุนปี2567 คาดใช้เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าของบริษัทที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น โครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าและไอน้ำจากกากน้ำมัน (ERU) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตในอินเดีย(AEPL) ฯลฯ

 

*กำไรฟื้นดีสุดในกลุ่ม

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงแนะนำ ซื้อ GPSC แต่ลดราคาราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ลง 1.7% เหลือ 57 บาท จากเดิม 58 บาท (WACC ที่ 6.5% และ Terminal Growth 0%) เชื่อว่า GPSC มีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวมากที่สุดในกลุ่มโดยเติบโต 61% และ53% YoY ในปี 67-68

 

แรงหนุนจาก ราคาก๊าซที่ลดลง, กำลังการผลิตใหม่จาก CFXD (โครงการ CI Changfang & CI Xidao) และ AEPL (Avaada Energy Private Limited) และ การดำเนินงานของ XPCL (โครงการไซยะบุรี) กลับสู่ภาวะปกติ ลดประมาณการกำไรปี 67-69 ลง 4-6% เพื่อสะท้อนผลประกอบการปี 66 หุ้น GPSC ซื้อขายที่ PER 12 เดือนที่ 25 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (60-64) ที่ 30 เท่า

 

คาดว่ากำไรปี 67-68 ของ GPSC จะเพิ่มขึ้น 61% และ 53% ตามลำดับ ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตของรายได้คือราคาก๊าซที่ลดลงสำหรับ SPP (ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก) เนื่องจากการผลิตในประเทศที่สูงขึ้นและราคา LNG กลับสู่ภาวะปกติ  คาดว่าส่วนแบ่งกำไรของ GPSC จะเพิ่มขึ้น 187% และ 27% ในปี 67-68 เนื่องจากโครงการ CFXD (โครงการพลังงานลมในไต้หวัน) ที่มีกาลังการผลิตตามสัดส่วน 149MW จะเริ่มดำเนินการผลิตเต็มกำลังภายใน 1H67 และการก่อสร้างโครงการ AEPL จะดำเนินต่อไป โดยเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1.7GWe ในปี 66 เป็น 4.7GWe ในปี 70

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง