รีเซต

ORขายดีมาร์จิ้นเพิ่ม ดีมานด์น้ำมันสดใส

ORขายดีมาร์จิ้นเพิ่ม ดีมานด์น้ำมันสดใส
ทันหุ้น
17 มีนาคม 2566 ( 07:05 )
138
ORขายดีมาร์จิ้นเพิ่ม ดีมานด์น้ำมันสดใส

#OR #ทันหุ้น– OR เผยผลงานไตรมาส 1/2566 ดีกว่าไตรมาส 4/2565 ทั้งวอลุ่มและมาร์จิ้น ทั้งปีเติบโตดีจากเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว การบริโภคฟื้นตัว  มองราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 80-87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เดินหน้าขยายลงทุนตามแผน 1.01 แสนล้านบาท ปีนี้ใช้เงิน 3.12 หมื่นล้านบาท โบรกชูกำไรขยายตัว ราคาเป้าหมาย 34 บาท

 

นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2566 จะเติบโต เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 หลังจากค่าการตลาด (Marketing Margin) กลับมาสู่ภาวะปกติที่ระดับ 0.70-1.30 บาทต่อลิตร รวมถึงปริมาณการจำหน่ายน้ำมันก็เพิ่มขึ้นตามการเปิดประเทศ การบริโภคฟื้นตัวขึ้น ทำให้โดยรวมปีนี้ ผลการดำเนินงานดีกว่าปีก่อน ตามปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่จะดีขึ้น เพราะเชื่อว่าทุกอย่างได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว รวมไปถึง เศรษฐกิจไทย (GDP) ที่คาดจะโตได้ราว 2.7-3.7% ตามการเปิดประเทศ

 

@ดีมานด์น้ำมันฟื้นตัว

 

นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวน 28 ล้านคน  โดยเฉพาะการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนจะส่งผลดีต่อยอดขายธุรกิจ Mobility และทำให้ยอดการใช้น้ำมันอากาศยาน (Jet) เพิ่มขึ้น รวมถึงปีนี้จะมีเรื่องของการเลือกตั้งเข้ามาหนุน แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบรัสเซียและยูเครน ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันผันผวน เบื้องต้นยังประเมินราคาน้ำมันปี 2566 เฉลี่ยที่ 80-87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  ขณะที่ค่าเงินยังมีแนวโน้มแข็งค่าตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์

 

ส่วนแผนการลงทุนในช่วง 5 ปี (2566-7025) บริษัทตั้งงบลงทุนรวมไปไว้ที่  1.01 แสนล้านบาท โดยให้น้ำหนักลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มากที่สุดประมาณ 33.3% เนื่องจากมี EBITDA Margin สูง และกลุ่มธุรกิจ Mobility ในสัดส่วน 30.9% ที่เหลือจะเป็นธุรกิจ Innovation & New business 19.6% และธุรกิจต่างประเทศ (Global) 16.2%

 

สำหรับในปี 2566 จะใช้เงินลงทุน 3.12 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 45% ลงทุนใน Lifestyle ประมาณ 14,200 ล้านบาท ในจำนวนนี้ ประมาณ 7,000 ล้านบาท จะใช้สำหรับหาโอกาสทางเลือกใหม่ๆ ให้กับธุรกิจทั้งในรูปแบบของพันธมิตรร่วมลงทุน และการเข้าซื้อกิจการหรือควบรวม (M&A) และอีก 7,000 ล้านบาท จะใช้ขยาย Café  Amazon เพิ่มอีก 400 แห่ง, Texas Chicken อีก 12 แห่ง และอื่นๆ

 

ด้านการลงทุนในธุรกิจ Mobility แบ่งเป็น 22% หรือ 6,800 ล้านบาท ใช้ขยายสถานีให้บริการปั๊มน้ำมัน (PTT Station) 122 แห่ง อีกทั้งยังใช้ขยายสถานนีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า  (EV Station) อีก 500 แห่ง เพื่อหวังขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจนี้  และกลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business ราว 17% หรือ 5,200 ล้านบาท เพื่อหาโอกาสการลงทุนใหม่และแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี  และอีก 16% ราว 5,000 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจต่างประเทศ (Global)

 

@ไม่มีแผนต้องกู้เงินเพิ่ม

 

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ OR ไม่มีแผนกู้เงินเพิ่ม หลังจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาต้องมีการกู้เงินเพื่อมาเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากภาครัฐมีเหตุที่ต้องติดค้างเงินจากกองทุนน้ำมัน ที่ต้องจ่ายให้กับ OR จึงต้องมีการกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องชั่วคราว แต่ปัจจุบัน ภาครัฐได้ทยอยจ่ายเงินเข้ามาแล้ว บริษัทก็มีทิศทางที่ดีขึ้น จากสิ้นปี 2565 รัฐบาลมีการคืนเงิน ทำให้เงินคงค้างชำระลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท และลดลงต่อเนื่องจนต้นเดือนมีนาคม 2566 มีเงินคงค้างชำระเหลือประมาณ 20,000 ล้านบาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง OR ว่า มุมมองด้านปริมาณ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นตลอดจนการเปิดประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหนุนอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ข้อมูลจาก EPPO ระบุว่า ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของไทย (น้ำมันดีเซล, น้ำมันก๊าซโซลีน, และน้ำมันเครื่องบิน) ขยายตัว 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในครึ่งแรกของปี 2565 และเร่งตัวขึ้นเป็น18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในครึ่งหลังของปี 2565 คาดว่าปริมาณขายปิโตรเลียมจะเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 1/2566

 

รวมทั้งมีอัพไซด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอุปสงค์น้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังเติบโต การวิเคราะห์ ความอ่อนไหวบ่งชี้ว่า ทุกๆ 5% ของปริมาณขายที่สูงกว่าประมาณการจะคิดเป็นอัพไซด์ 3% ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 นอกจากแนวโน้มธุรกิจน้ำมันที่ดีขึ้นแล้ว ธุรกิจ Non-Oil ของ OR (F&B, CVS และพื้นที่ให้เช่า) คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 1/2566 เช่นกัน หนุนโดยการขยายตัวของอัตรากำไรจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง จากแนวโน้มที่กล่าวมา จึงคาดว่า OR จะรายงานกำไรฟื้นตัว จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นรูปแบบ V-Shape ในไตรมาส 1/2566 คำแนะนำซื้อ เป้าหมายพื้นฐาน 34 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง