MASTER มุมมอง บล.ดาโอ ประกาศ M&A 5 ดีล ลงทุน 468 ลบ.
#ทันหุ้น - บล.ดาโอ ระบุ MASTER ประกาศดีล 5 บริษัทตามคาด โดยแจ้งตลาดฯ บอร์ดมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในกิจการทั้ง 5 บริษัท โดยมีมูลค่าการลงทุน รวมทั้งสิ้น 468 ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1) บริษัท ทวิงเกิ้ล สตาร์ จำกัด (MASTER ถือหุ้น 40%) ลงทุน 64.9 ล้านบาท โดยประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ผลิตสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์
2) บริษัท ทีวายพี เมดิคัล จำกัด (MASTER ถือหุ้น 40%) ลงทุน 73.7 ล้านบาท โดยบริษัทนี้เป็นบริษัทจัดตั้งใหม่เพื่อรับโอนกิจการคลินิกเสริมความงามซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ชื่อ
“TYP Clinic”
3) บริษัท ซีเอ็มเอ็นเอช 2012 จำกัด (MASTER ถือหุ้น 40%) ลงทุน 50 ล้านบาท โดยประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุ ชื่อเชียงใหม่เนิร์สซิ่งโฮมแคร์ จังหวัดเชียงใหม่
4) บริษัท ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล จำกัด (MASTER ถือหุ้น 40%) ลงทุน 96 ล้านบาท โดยบริษัทนี้เป็นบริษัทจัดตั้งใหม่เพื่อรับโอนกิจการเฉพาะทางด้านคลินิกผิวหนังและความ “The Skin Clinic” ซึ่ง
มีความช านาญด้านปลูกผมและศัลยกรรมความงาม ทั้งสิ้น 7 สาขา และโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมผม “ด็อกเตอร์ ท๊อป แฮร์ ฮอสพิทอล” ทั้งนี้ จะเข้าลงทุนแล้วเสร็จภายใน 1Q24
5) บริษัท บีอีคิว จำกัด (MASTER ถือหุ้น 35%) ลงทุน 183.8 ล้านบาท ประกอบกิจการคลินิกให้บริการด้านผิวพรรณ รูปร่างและเส้นผม ภายใต้ชื่อ “BEQ Clinic” ในกรุงเทพ ชำนาญด้านปลูกผมครบวงจร
ทั้งนี้ จะเข้าลงทุนแล้วเสร็จภายใน Q3/67
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนทั้ง 5 บริษัทจะใช้เงินที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากการประกาศดีลในครั้งนี้ โดยยังเป็นไปตามแผนที่บริษัทได้แจ้งไว้ โดยฝ่ายวิจัยได้สอบถามไปยัง MASTER สำหรับการลงทุนใน TYP, CMNH 2012, Dr.Top Hair Hospital, BEQ จะเป็นการลงทุนตามแผนที่บริษัทวางไว้ เพื่อขยายฐานลูกค้าและรูปแบบการให้บริการได้ครอบคลุมมากขึ้น ด้าน ทวิงเกิ้ล สตาร์ คาดช่วยส่งเสริมในการเผยแพร่บริการของบริษัทให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่ Q3/67E-Q4/67E เป็นต้นไป โดยผู้บริหารคาดกำไรสุทธิในปี 2567E ของแต่ละบริษัทอยู่ที่ 20-35 ล้านบาท
เบื้องต้น ฝ่ายวิจัยมองว่าราคาที่เข้าลงทุนนั้นไม่แพง โดยคิดเป็น 2567E PER ที่ 7.4x – 15x อยู่ระหว่างรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางบริษัท ดังนั้น ยังไม่ได้รวมดีลข้างต้นในประมาณการ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566E ที่ 414 ล้านบาท (+318% YoY) และปี 2567E ที่ 579 ล้านบาท (+40% YoY) คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 99.00 บาท อิง 2567E PER 45.0x