รีเซต

“ศุภจี” จับมือสภาหอการค้าไทย ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ

“ศุภจี” จับมือสภาหอการค้าไทย ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ
ทันหุ้น
9 ตุลาคม 2568 ( 15:50 )
10

“ศุภจี” จับมือสภาหอการค้าไทย ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ

#ทันหุ้น #ศุภจี จับมือสภาหอการค้าไทย ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ ดัน FTA – เปิดตลาดอินเดีย – ดูแลสินค้าเกษตร พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการชายแดน

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกับคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำโดย ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และผู้แทนภาคเอกชน ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ 

เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือในการรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา (U.S. Tariff) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเกษตรของไทย ป้องกันสินค้าสวมสิทธิ์ควบคุมสินค้านำเข้าไม่ได้มาตรฐาน และส่งเสริมการค้ากับตลาดใหม่ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยต่อกฎระเบียบการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย โดยตั้งเป้าหมายให้การเจรจารายละเอียดมีข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้รับความชัดเจนและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเน้นให้ทุกภาคส่วนทำการบ้านล่วงหน้า รวมทั้งเตรียมตลาดทดแทน และวางกลยุทธ์สินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก

“เราต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น ระหว่างกระทรวงกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดกิจกรรมทางการค้าอย่างเป็นรูปธรรมในทุกระดับ เน้นกระตุ้นสั้น ได้ยาว และกระจายตัว ทางกระทรวงพาณิชย์พร้อมทำงานร่วมกับภาคเอกชนเต็มที่ เพื่อให้ทีมไทยแลนด์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน” นางศุภจีกล่าว

ด้าน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกไปสหรัฐฯ เริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าว ทำให้การสั่งซื้อสินค้าชะลอตัวลง แต่ภาคเอกชนมั่นใจว่าภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จะสามารถขับเคลื่อนและบรรเทาผลกระทบได้อย่างเป็นรูปธรรม

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคการส่งออกข้าวยังเผชิญปัญหาขาดแคลนพันธุ์ข้าวที่ตรงกับความต้องการของตลาดโลก จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ และรักษาค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้

นางสาวปริม จิตจรุงพร ประธานสภาธุรกิจไทย–อินเดีย กล่าวว่า ตลาดอินเดียมีศักยภาพสูงและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า วัสดุก่อสร้าง ของตกแต่งบ้าน และอาหาร พร้อมขอความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ในการส่งเสริมการค้ากับแต่ละรัฐของอินเดียอย่างเป็นระบบ

ด้าน ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการเห็นความคืบหน้าในการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA)ให้ FTA ไทย–เอฟตา มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อปูทางสู่ FTA ไทย–อียู และฉบับอื่นๆ ซึ่งหากสามารถสรุปเร็ว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้อย่างมาก

และภาคเอกชนยังได้เสนอให้จัดตั้ง “คณะทำงานเชิงรุกด้านผลิตภัณฑ์ยางพารา” ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและเกษตรกรรับมือภาวะตลาดซบเซา และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ถือหุ้นนอมินีอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ นางศุภจี กล่าวเสริมว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมบริหารจัดการข้าวคงเหลือจำนวน 1.8 ล้านตัน โดยจะร่วมมือกับเกษตรกรและภาคเอกชนในการยกระดับคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่ม ผลักดันให้เกิดต้นแบบเกษตรกรคุณภาพที่สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกร รวมถึงศึกษาความต้องการของตลาดโลกเพื่อขยายการผลิตพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูง และกระทรวงพาณิชย์มุ่งมั่นผลักดันการเจรจา FTA ต่างๆให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าใหม่ให้กับผู้ประกอบการไทย และสร้างรากฐานเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง