รัฐบาล เตรียม Up Skill- Re Skill แรงงานแสนคน รับเทคโนโลยีสมัยใหม่

#ทันหุ้น รัฐบาล เตรียม Up Skill- Re Skill แรงงานแสนคน รับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยจะฝึกให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนนี้
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียม Up Skill และ Re Skill แรงงาน 1 แสนคน เพื่อรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยปัญหาหนึ่งของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยคือ การขาดแคลนแรงงานทักษะที่ต้องการ
ทั้งนี้ รัฐบาลจะใช้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่มีวงเงินอยู่ 1 หมื่นล้านบาทมาใช้ในโครงการ Up skill Re Skill โดยการฝึกทักษะแรงงานนั้น จะพิจารณาตามความต้องการของตลาด หรือเป็น Demand Driven ไม่ใช้ Supply Driven
เขากล่าวว่า บีโอไอ ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จะต้องไปคุยกับภาคธุรกิจที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนว่า เขาต้องการทักษะแรงงานประเภทใดบ้าง เพื่อให้ Up Skill หรือ Re Skill ซึ่งจะรวมกับสถาบันการศึกษามาทำโครงการนี้ เพื่อให้เป็นมาตรฐาน
“เป้าหมายภายใน 4 เดือนนับจากนี้ จะต้อง Up Skill หรือ Re Skill แรงงานให้ได้ 1 แสนคน เพื่อให้แรงงานเหล่านี้เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม แก้ปัญหาด้านคุณภาพของแรงงาน” นายเอกนิติ กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาล มีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือ SMEsในการปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งปัจจุบันบีโอไอมีโครงการที่จะให้เงินช่วยเหลือในลักษณะเป็นยินยอม สำหรับ SMEs ที่ต้องการทรานฟอร์ม โดยรายเล็กได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ส่วนรายกลางได้ไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่ติดปัญหาที่มีเงื่อนไขของบีโอไอว่า SMEs เหล่านั้นจะต้องลงทุนปรับปรุงให้เสร็จเสียก่อน จึงจะได้รับการยินยอมนี้ ประเด็นก็คือ SMEs มีปัญหาในเรื่องสภาพคล่อง ซึ่งตนจะขอให้สถาบันการเงินเข้ามาช่วยเป็น Bridge financing ให้กับSMEs ที่ต้องการ Transform ซึ่งหลักประกันของสถาบันการเงินคือ เมื่อ SMEs รายใดได้รับอนุมัติยินยอมแล้ว สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้จะได้เงินกู้คืนแน่นอนไม่เป็นหนี้เสีย
เขายังกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน SMEs มีปัญหาสภาพคล่องในการทำธุรกิจ ตนจะให้ บสย.เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ SMEs เพื่อให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลจะทำโครงการพี่ช่วยน้อง โดยหากธุรกิจขนาดใหญ่ ซื้อสินค้าจาก SMEs จะให้สามารถนำรายจ่ายนั้นมาหักภาษีได้ 1.5 เท่าหรืออาจถึง 2 เท่า เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจขนาดใหญ่ซื้อสินค้าจาก SME ให้มากขึ้น
เขากล่าวอีกว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยติดกับดัก 4 เรื่อง คือ 1. เศรษฐกิจขยายตัวต่ำ โดยหลังปี 2540 จนถึงปัจจุบัน ขยายตัวเฉลี่ยไม่ถึง 2 % ทำให้ประเทศติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางไม่สามารถก้าวสู่ประเทศรายได้สูงได้ สาเหตุสำคัญเพราะประเทศมีการลงทุนต่ำ จากก่อนปี 2540 เคยมีสัดส่วนการลงทุนต่อจีดีดีสูงถึง 40 % แต่หลังปี 2540 เหลือเพียง 23%
2.กับดักด้านทักษะแรงงานของคน ขณะที่ไทยก้าวสู่สังคมสูงอายุ ที่มีคนอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป มากถึง 20 % ของประชากร แล้วยังมีปัญหาในเรื่องทักษะของคนด้วย
3.กับดักของการยกระดับเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนเปลี่ยอย่างรวดเร็วในช่วง 3 -4 ปีที่ผ่านมา
4.กับดักหนี้ ทั้งหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 80 % ของ GDP และหนี้สาธารณะของรัฐบาลที่อยู่ที่ 64 % ของGDP ใกล้จะชนเพดานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 70 %
เขากล่าวว่า วิธีการแก้ไขในเรื่องการลงทุนที่ต่ำของประเทศคือ รัฐบาล โดย BOI จะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้นว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรมสมัยใหม่อะไรบ้าง เช่น Data Center ,Semi Conductor AI และอุตสาหกรรม BCG ที่เรามีฐานภาคการเกษตรที่เข้มแข็งอยู่แล้ว รวมถึงอุตสาหกรรมการ EV เป็นต้น
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า จะใช้เงินที่เหลืออยู่จากโครงการคุณสู้เราช่วย ที่เหลืออยู่ 2.6 หมื่นล้านบาทโดย จะตัดมาราว 1 หมื่นล้านบาท มาใช้ซื้อหนี้เสียภาคประชาชนจากสถาบันการเงิน โดยให้ BAM หรือ SAM เป็น AMC ในการช่วยปรับปรุงโครงสร่างหนี้ เหล่านี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ต่อไป คาดว่าจะเห็นโครงการแก้หนี้ดังกล่าวภายในหนึ่งเดือนนับจากนี้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
