“เอกนิติ”เผย เตรียมรื้อโครงสร้างลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

#ทันหุ้น“เอกนิติ”เผย เตรียมรื้อโครงสร้างลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ชี้แนวทางลดหย่อนภาษีในปัจจุบันสะเปะสะปะ หวังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกรอบวินัยการคลังที่แข็งแรงมากขึ้น คาดศึกษาแล้วเสร็จภายในพ.ย.นี้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมทบทวน ค่าลดหย่อนทางภาษี และมาตรการยกเว้นภาษีบางตัว  เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขความกังวลในปัญหาหนี้สาธารณะของเครดิตเรตติ้ง ซึ่งเชื่อว่า จะช่วยในเรื่องรายได้ของรัฐบาลพอสมควร

ทั้งนี้ ในเรื่องของการปรับปรุงค่าลดหย่อนทางภาษีนั้น เขากล่าวว่า ทุกวันนี้การลดหย่อนมันสะเปะสะปะมาก มันไม่มีกรอบที่ชัดเจน เราจะต้องกำหนดเพดานของค่าลดหย่อนต่อปีว่าควรมีเพดานสูงสุดเท่าไหร่  คาดว่าจะเสร็จใน พ.ย.นี้ ตอนนี้กำลังให้ทีมศึกษาอยู่

เขากล่าวด้วยว่า ในเรื่องดังกล่าว ตนสนใจข้อเสนอของตลาดหลักทรัพย์มากในเรื่อง individual Saving Account  คือ ให้คนเลือกเอง โดยมีเพดานของตนเองว่าจะไปลงทุนอะไร หุ้นตัวไหน พันธบัตรตัวไหน เหมือนเป็นกรอบลงทุนของแต่ละคน ไม่ต้องมาออกโปรดักส์ใหม่ เช่น LTF ,RMF หรือESG ที่ต้องออกมาเรื่อยๆแล้วมันซ้ำซ้อน ตรงนี้ให้มารวมอยู่ในถังเดียวกัน คนจะได้มีทางเลือกได้ บางคนอยากลงทุนพันธบัตร บางคนรับความเสี่ยงได้สูงก็ลงทุนในหุ้น หรือบางคนไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเขาจะมีอิสระในการเลือกการลงทุน

“ในอดีตที่ผ่านมา ออก LTF  ทุกคนก็แห่กันซื้อ เพราะหวังจะได้ภาษี  เสร็จแล้วออกมาผลประกอบการกองทุนติดลบ  แต่ถ้าให้คนเขาเลือกเอง ว่าจะไปลงทุนตรงไหน เพราะคนสนใจไม่เหมือนกัน”

เขากล่าวว่า การปรับปรุงแนวทางการลดหย่อนภาษีดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงกรอบวินัยการคลังระยะปานกลางที่จะมีการปรับปรุงในพ .ย.นี้ เพื่อเป็นการแก้ไขกับดักหนี้ของรัฐบาล ซึ่งการที่เครดิตเรตติ้งปรับ Outlook เรา เพราะเขากังวลสามด้าน ด้านที่หนึ่งการเมือง ซึ่งเราทำอะไรไม่ได้  ด้านที่สอง ศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย วันนี้เราจะเน้นการพัฒนาทักษะของคน เน้นการลงทุนใน อุตสาหกรรมใหม่ เพื่อให้เห็นศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ เช่น Data Center ไทยไม่แพ้ใครในโลก Digital หรือ AI ไทยไม่แพ้ใครในโลก ด้านที่สามคือ เรื่องหนี้สาธารณะการขาดดุลการคลังเราจะทำอย่างไร ที่เราตั้งใจจะทำคือมาดูเรื่องรายได้ ว่ามันมีช่องโหว่ตรงไหนของรัฐ  และเรื่องรายจ่ายมีอันไหนที่รายจ่ายเกินตัว และเราไปเน้นการลงทุนมากขึ้น ซึ่งเราทำภายในสี่เดือนนี้แน่นอน

“ภายในเดือน พ.ย.นี้ กระทรวงการคลัง จะมีการทบทวนกรอบวินัยการคลังระยะปานกลาง ซึ่งมีหลายเรื่องที่ กำลังพิจารณาอยู่ เช่น การปรับเกณฑ์ค่าลดหย่อนต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องแก้ประมวลรัษฎากร รวมถึง เรื่องภาษีที่เคยยกเว้นไว้ในอดีต และการเอาดิจิทัลในการยื่นภาษีมาใช้ ซึ่งวันนี้ เรายังไม่ได้บังคับ ซึ่งตนคิดว่าการบังคับเข้าสู่ระบบดิจิทัลแต่มีข้อยกเว้นให้คนที่อาจเข้าไม่ถึง เชื่อว่า จะทำให้ฐานภาษีเราโตขึ้นเยอะ เพื่อโชว์ให้เห็นถึงวินัยการคลังของรัฐบาล”

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมสรรพากร กำหนดค่าลดหย่อนทางภาษีจำนวนหลายรายการ ทั้งค่าลดหย่อนที่เป็นส่วนตัว และค่าลดหย่อนที่เกิดจากการลงทุนของบุคคล ตามที่รัฐให้การสนับสนุน เช่น ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF นำมาหักค่าลดหย่อนทางภาษีได้ไม่เกิน 30 % ของเงินได้พึ่งประเมิน แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท/ปี , ,ค่าซื้อหน่วยลงทุน ESG หักได้ 30 % ของเงินได้พึ่งประเมิน แต่ไม่เกิน 3 แสนบาท ,ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน หักได้ไม่เกิน 1 แสนบาท และค่าเบี้ยประกันชีวิตที่มีอายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป หักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นต้น