WHAปี69ขายที่ดินนิวไฮ ‘เซมิคอนดักเตอร์’จ่อเข้า

#WHA #ทันหุ้น - WHA มองทิศทางธุรกิจปี 2569 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายที่ดินนิวไฮ จากกระแสย้ายฐานลงทุน ดาต้าเซ็นเตอร์ – คอนซูเมอร์โปรดักต์-อีวีซัพพลายเชน แถมส่งต่อความต้องการใช้น้ำ – พลังงานสะอาดไปยัง WHAUP มองอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็น Next Stop ใน 2–3 ปีข้างหน้า
นายณัฐพรรษ ตันบุญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ในปี 2569 บริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ดินจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High) จากแรงหนุนของการย้ายฐานการผลิตและการลงทุนในประเทศไทย
@ดาต้า-คลาวด์หนุน
โดยยังคงประเมินว่าธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากประเทศไทยยังมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และความสามารถในการจัดหาพลังงานสะอาดผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง (Direct PPA) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงทุนของลูกค้ากลุ่มเทคโนโลยี Hyperscale ระดับโลกโดยเฉพาะจากสหรัฐฯ และจีน
ขณะเดียวกันลูกค้าในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Community) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากไทยยังได้เปรียบด้านวัตถุดิบและห่วงโซ่อุปทาน ดึงดูดผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดเอเชีย
ทั้งนี้ WHA จะยังคงชูจุดแข็งของไทยที่มีความได้เปรียบด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในการดึงดูดผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้เข้ามาลงทุน หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการดึงกลุ่ม PCB (Printed Circuit Board) เข้ามาจนไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว ทั้งนี้จะมุ่งเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ IoT ซึ่งมีความต้งอการสูง สามารถใช้ได้หลากหลายทั้งสุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน สมาร์ทโฟน ฯลฯ โดยจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ผลิตจากไต้หวัน เกาหลี และจีน
@โลจิสติกส์เด่น
ขณะที่กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 150,000 - 200,000 ตารางเมตร โดยในปี 2568 คาดว่าจะทำได้ถึง 200,000 ตารางเมตร ตามเป้าหมาย พร้อมกันนี้ บริษัทได้เริ่มขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจง (High Value) ที่ต้องการคลังสินค้าที่มีสเปคสูงและมีสัญญาเช่าระยะยาว
ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าสัญญา (Contract Value) ให้สูงกว่าปกติถึง 3-4 เท่า อาทิ 1.กลุ่มวัสดุก่อสร้าง: มีการเซ็นสัญญาเช่ายาวถึง 20 ปี เพื่อติดตั้งระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automate) กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ : มีคลังสินค้าสเปกสูง เพื่อความพร้อมในการนำเสนอ - จัดส่งเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับสอดคล้องกับความต้องการของแทต่ละโรงพยาบาล และ กลุ่มปิโตรเคมี : เป็นกลุ่มที่มีสัญญาเช่าระยะยาวประมาณ 10 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ การเข้ามาของอุตสาหกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะ Data Center และเทคโนโลยี ส่งผลให้ความต้องการใช้สาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการใช้น้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 4-5 เท่า ควบคู่ไปกับความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นในระดับสูง สะท้อนการเปลี่ยนโครงสร้างผู้เช่าไปสู่อุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนและใช้ทรัพยากรเข้มข้นมากขึ้น เป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มภายในกลุ่มระหว่าง WHA และ WHAUP มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะการรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในระดับกิกะวัตต์จากลูกค้ากลุ่ม Data Center และการจัดหาพลังงานหมุนเวียนผ่าน Direct PPA ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ ขณะเดียวกัน WHAUP ยังได้ประโยชน์จากการเป็นผู้ให้บริการหลักด้าน “น้ำ ไฟ และโครงข่าย” ภายในนิคมฯ ที่มีข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างพื้นฐานเหนือคู่แข่ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
