รีเซต

เปิดสาเหตุ 'Bitcoin' พุ่งทำนิวไฮทะลุ 20,000 ดอลลาร์ เพราะอะไร?

เปิดสาเหตุ 'Bitcoin' พุ่งทำนิวไฮทะลุ 20,000 ดอลลาร์ เพราะอะไร?
TNN ช่อง16
17 ธันวาคม 2563 ( 14:04 )
178

        เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้ทำนิวไฮท์ พุ่งขึ้นไปมากกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือพุ่งขึ้นกว่า  1,337.75 ดอลลาร์  บวกขึ้นไปประมาณ 6.91% ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ CoinDesk จึงเป็นที่น่าสังเกตของบรรดานักลงทุน เพราะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนไทยเริ่มคุ้นเคยและรู้จักการลงทุน Bitcoin มากขึ้น 

 Bitcoin พุ่งขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังชะลอ

        นักวิเคราะห์ประเมินว่า Bitcoin ปรับตัวขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ทำท่าไม่สู้ดีนัก เพราะปรับลดลงกว่าคาดการณ์ไว้ อาทิ ตัวเลขค้าปลีกที่ลดลง 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. จากคาดดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 0.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเหล่านี้ก็เกิดจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน 

        รวมทั้งการที่สหรัฐได้ขึ้นบัญชีไทย, ไต้หวัน และอินเดีย เป็นประเทศล่าสุดที่ถูกจับตามอง เนื่องจากอาจมีการใช้มาตรการลดค่าเงินเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์  ส่วนประเทศอื่นที่ถูกจับตามองได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ อิตาลี และเยอรมนี


การดีดตัวของ Bitcoin ครั้งนี้ต่างจากในอดีต

          ช่วงต้นปีที่ผ่านมา Bitcoin พุ่งขึ้นมากกว่า 170% ซึ่งนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า การดีดตัวของ Bitcoin ครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด เช่น พอล ทิวดอร์ โจนส์ และสแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ โดยแตกต่างจากในปี 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย

          ยกตัวอย่างเช่น เพย์พาล ยักษ์ใหญ่ฟินเทค ประกาศว่า บริษัทจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการซื้อขาย Bitcoin และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ และในช่วงต้นปีหน้า เพย์พาล มีแผนที่จะให้ลูกค้าใช้สกุลเงินคริปโตในการซื้อสินค้าจากเครือข่ายร้านค้าปลีกจำนวน 26 ล้านรายของทางบริษัท

ผลกระทบจากโควิดกลับส่งผลดีต่อ Bitcoin 

        การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครอง Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น และนักลงทุนยังเปิดรับ Bitcoin ให้มีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นเดียวกับทองคำ ด้วยสถานการณ์ความกังวลของเศรษฐกิจโลกในช่วงนั้น  และยังเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อจากการที่รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย 


ราคา Bitcoin มีโอกาสเข้าช่วงขาลงได้เหมือนกัน

         นาง Noelle Acheson ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ CoinDesk ระบุว่า  การที่ราคา Bitcoin พุ่งทะลุระดับ 20,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่เป็น “ช่วงขาลง” นั้นจางหายไป  Bitcoin อาจร่วงดิ่งลงสู่โหม่งพื้นโลกได้ทุกเมื่อ แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันดูน่าสนใจในแง่ของสินทรัพย์ โดยสิ่งที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Btcoin เลยก็คือมันไม่เป็นไปตามเทคนิคการประเมินค่าตามมาตรฐาน ไม่มีกระแสเงินสดที่จะปรับลดราคาของมันได้และไม่มีสินทรัพย์ทางกายภาพใด ๆ มาค้ำประกันอยู่เบื้องหลังนั่นเอง 
        ข้อมูลจาก โบรกเกอร์ B2C2 สหรัฐฯ เผยว่า ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาของการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ที่วิ่ง Sideway ไปมาระหว่างช่วงระดับ  18,000 ดอลลาร์- 19,600 ดอลลาร์  สะท้อนถึงอุปทานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างก็มองว่า  การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดทั่วโลก, Brexit และปัจจัยระดับมหภาคอื่น ๆด้วย 


cr:pixabay

Bitcoin ไต่อันดับขึ้นเป็นหน่วยลงทุนที่มีมูลค่าตลาดรวมอันดับ 13 ของโลก

        หากใครลงทุนใน  Bitcoin จะทราบว่าราคาเคลื่อนไหวและมีการซื้อขายกันตลอดเวลาที่หายใจ   โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้พุ่งทะลุระดับ 21,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 3.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก้าวขึ้นมาเป็นหน่วยลงทุนที่มีมูลค่าตลาดรวมอันดับ 13 ของโลก  ท่ามกลางบรรดาหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ แทนที่ธนาคาร JP Morgan Chase & Co., Mastercard และ Disney 
        ซึ่งหาก Bitcoin สามารถไปแตะที่ระดับ 25,000  ดอลลาร์ได้จะสามารถแซงบริษัท Visa ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่ที่สุด 


         อย่างไรก็ตาม ตลาด Bitcoin ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับนักลงทุนอีกต่อไป  ขณะที่ การพุ่งขึ้นทะลุจุดสูงสุดของราคา Bitcoin นั้นไม่ได้หมายความว่า  "ในปี 2021 นี้เราจะไม่ได้เห็นการปรับฐานราคาลดลงเหมือนกับในปี 2018 อีกครั้ง " ซึ่งยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตา


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง