กองทุนน้ำมันบักโกรกติดลบทะลุ 1.23 หมื่นล้านบาท หลังอุ้มดีเซลลิตรละ 3.09 บาท

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า ผลพวงจากระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ผ่านมายังคงผันผวนอยู่ในระดับสูงส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันของไทยต้องปรับราคาอย่างต่อเนื่องแต่นโยบายรัฐบาลกำหนดตรึงราคาดีเซลไว้ไม่เกินระดับ 30 บาทต่อลิตรจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.65 ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสถานะกองทุนฯล่าสุด ณ วันที่ 25 ม.ค.ต้องจ่ายอุดหนุนราคาดีเซลสูงถึงลิตรละ 3.09 บาท

อย่างไรก็ตามนโยบายการตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรนั้นมีผู้ค้าที่ให้ความร่วมมือเพียง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และบ.ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) เท่านั้นที่กำหนดราคาไว้ระดับ 29.94 บาทต่อลิตรเนื่องจากล่าสุดค่าการตลาดยังอยู่ระดับต่ำเพียง 0.75 บาทต่อลิตรจึงทำให้ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นๆ ได้ปรับราคาน้ำมันเกินระดับ 30 บาทต่อลิตรไปแล้วโดย ณ วันที่ 25 ม.ค. อาทิ เชลล์ ราคาอยู่ที่ 31.44 บาทต่อลิตร เอสโซ่ฯ อยู่ที่ 30.34 บาทต่อลิตร คาลเท็กซ์ 30.64 บาทต่อลิตร เป็นต้น

นอกจากนี้นโยบายรัฐบาลยังกำหนดดูแลราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG)ภาคครัวเรือนที่ระดับ 318 บาทต่อถัง(15กิโลกรัม) จนถึงสิ้นมี.ค.นี้เช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้กองทุนฯต้องอุดหนุน LPG สูงถึง 14.86 บาทต่อกก.แล้ว จึงทำให้สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 23 ม.ค. 65 มีฐานะสุทธิติดลบ 12,335 ล้านบาทแบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 11,828 ล้านบาท บัญชี LPG ติดลบ 24,163 ล้านบาท