เช็กก่อนช้อป! ใครได้คืนภาษีเท่าไหร่จากช้อปดีมีคืน

โค้งสุดท้าย! ของปี 2563วางแผนทางการเงินแล้วหรือยัง ? กลายเป็นเทศกาลของ “เหล่ามนุษย์เงินเดือน” ที่มองหาสิทธิต่าง ๆที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน ผ่านกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) มาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ถือเป็นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีที่มีนโยบายการลงทุนหลากหลายรูปแบบพร้อมให้สิทธิบุคคลธรรมดาสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 30%ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีและต้องไม่เกิน 200,000 บาท

แต่บรรยากาศการลงทุนที่ขึ้น ๆ ลง ๆตามการเคลื่อนไหวของหลากหลายปัจจัยเข้ามากระทบ อาจทำให้การเลือกสิทธิลดหย่อนภาษี ผ่านการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนต้องวิเคราะห์หนักพอสมควรเพราะอย่าลืมว่าการเลือกลงทุนในกองทุน SSF มีเงื่อนไขต้องให้ลงทุนยาวถึง 10 ปี หากตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงอาจทำให้หัวใจของผู้ลงทุนเต้นตุ๊ม ๆ  ต่อมๆ ก็เป็นได้

วันนี้จึงมาบอกเล่าอีกหนึ่งมาตรการของรัฐบาล ที่มนุษย์เงินเดือนคนอาจลืมเลือนหรืออาจถูกกระแสฮอตฮิตของมาตรการคนละครึ่งบดบังไป นั้นคือมาตรการ “ช้อปดีมีคืน”หนี่งในมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อของชิ้นใหญ่ช่วงปลายปีจะซื้อเป็นของขวัญให้กับตัวเอง หรือซื้อมอบให้คนที่รัก รับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ได้

มาตรการนี้ให้สิทธิหักลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในประเทศได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน เริ่มให้ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ที่่ผ่านมาและจะสิ้นสุดในวันที่  31ธ.ค.นี้

สำหรับผู้ที่สนใจใช้มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรายได้"เงินได้สุทธิ" ของแต่ละปีจะมาคิดตามอัตราคืนภาษีดังนี้ หากเงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ได้เข้าร่วมโครงการ 

เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท มีสิทธิ์คืนภาษีสูง สุด 1,500บาท เงินได้สุทธิต่อปี 300,001-500,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 3,000บาทเงินได้สุทธิต่อปี 500,001-750,000 บาทมีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 4,500 บาท 

เงินได้สุทธิต่อปี750,001-1,000,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท เงินได้สุทธิต่อปี1,000,001-2,000,000 บาท  มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 7,500 บาท  เงินได้สุทธิต่อปี2,000,001-5,000,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 9,000 บาท และเงินได้สุทธิต่อปี5,000,001 บาทขึ้นไป มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท

สำหรับสินค้าเข้าร่วมทุกประเภทที่อยู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม( VAT)ยกเว้น เหล้า เบียร์ ไวน์ บุหรี่หรือยาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซที่ใช้เติมยานพาหนะ ซื้อรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เรือ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร ทั้งรูปเล่มและอิเล็กทรอนิกส์  ค่าบริการจัดนำเที่ยวค่าที่พัก โรงแรม เฟอร์นิเจอร์

ส่วนหลักฐานที่ต้องใช้สำหรับใช้สิทธิลดหย่อนภาษี "ช้อปดีมีคืน" ได้แก่ ใบกํากับภาษีแบบเต็มรูป (ทั้งแบบกระดาษ และแบบ e-Tax Invoice) ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูล รวมถึงวันที่ รายการและจํานวนเงินด้วย ที่สำคัญ…อย่าลืมเก็บไว้ดี ๆ  เพราะหากทำหายขึ้นมา อดใช้สิทธิ์ครั้งนี้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ถือเป็นหนึ่งมาตรการที่ช่วยให้ผู้ที่เสียภาษีวางแผนทางการเงิน เพราะซื้อของแล้วยังได้รับสิทธิ์นำมาลดหย่อนภาษี แต่ต้องคำนวณถึงความคุ้มค่าด้วย ว่าจำเป็นต้องซื้อของชิ้นใหญ่ราคาสูงในเวลานี้หรือไม่ และอย่าลืมว่า ผู้ที่ได้รับสิทธิและใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งแล้วจะไม่ได้รับสิทธิ์มาตรการช้อปดีมีคืน

เกาะติดข่าวที่นี่