ยลโฉมเทคโนโลยีสุดล้ำในงานระดับโลก CES 2024 | TNN Tech Reports
เวที Consumer Electronics Show หรือ CES ถือเป็น หนึ่งในงานแสดงสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ เมืองลาส เวกัส (Las Vegas Convention Center) รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในงานนี้นับเป็นสถานที่แรก ๆ ที่ผู้ประกอบการจากทั่วโลกใช้เป็นพื้นที่เปิดตัวสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีเช่นเดียวกับในงาน CES 2024 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะมีนวัตกรรมที่น่าสนใจอะไรบ้าง เรามีตัวอย่างบางส่วนมาฝากกัน
รถแข่งไร้คนขับเร็วที่สุดในโลก
เอวี-ทเวนตี้โฟร์ (AV-24) คือรถแข่งไร้คนขับที่เคลมว่าวิ่งได้เร็วที่สุดในโลก และกำลังเตรียมพิสูจน์ความไวในสนามการแข่งขันรถแข่งไร้คนขับ อินดี้ ออโตโนมัส ชาเล้นจ์ หรือ ไอเอซี (Indy Autonomous Challenge:IAC) ในเดือนกันยายนปีนี้
เอวี-ทเวนตี้โฟร์ (AV-24) คือรถแข่งไร้คนขับที่ทาง ไอเอซี จับมือกับพันธมิตรในวงการยานยนต์และเทคโนโลยี เช่น บริดจ์สโตน (Bridgestone), ซิสโก้ (Cisco), คอนติเนนทัล (Continental), และบริษัทอื่น ๆ พัฒนาขึ้น
ตัวรถทำความเร็วสูงสุดที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในติดตั้งเซนเซอร์อินฟราเรด กล้องสแกนพื้นที่แบบไลดาร์ (LiDAR) ซึ่งทำงานได้ระยะไกลแบบ 360 องศา และเซนเซอร์ตำแหน่ง GPS เพื่อการรับรู้ทิศทางและข้อมูลตัวรถ
ส่วนภายในรถจะมีแกนกลางเป็นหน่วยประมวลผล ที่รองรับการทำงานแบบฝาแฝดดิจิทัล หรือ Digital Twin ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจำลองสภาพแวดล้อมจริง ทั้งตัวรถและสนามแข่ง นำเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ AI ทำการประมวลผลและฝึกซ้อม สำหรับใช้ในการแข่งขัน
โดย AI จะได้รับการฝึกสอนในโลกเสมือนจากการทำ Digital Twin จนกว่าระบบของมัน จะสามารถขับรถแข่งคันนี้ในโลกเสมือนได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อผ่านแล้วจึงจะได้ทดลองควบคุมรถ บนสนามแข่งขันจริงต่อไป
ซึ่งการทำงานของ AI บนโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันก็จะไม่ได้ทำหน้าที่แค่เพียงการควบคุมพวงมาลัยเท่านั้น แต่จะต้องควบคุมการทำงานทุกส่วนของตัวรถ ผ่านระบบไฟฟ้าที่เรียกว่า ไดรฟ์ บาย ไวร์ (Drive-by-wire) ซึ่งทำให้ทุกส่วนที่เกี่ยวกับการขับรถ สามารถทำงานประสานกันได้
Rabbit R1 ผู้ช่วยเอไอแบบพกพา
กระแสของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือว่าเอไอ ทำให้เราได้เห็นผลงานใหม่ ๆ อีกแล้ว เมื่อสตาร์ตอัปจากสหรัฐฯ เปิดตัว อุปกรณ์เอไอสุดล้ำในชื่อ แรบบิท อาร์วัน (Rabbit R1) ที่ดูแล้วคล้ายกับสมาร์ตโฟนเครื่องเล็กสุดน่ารัก แต่มาพร้อมความสามารถในการรับฟังคำสั่งและจัดการงานผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้เสมือนเป็นผู้ช่วยเอไอในมือเรา
ตัวอุปกรณ์ ออกแบบมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม มีน้ำหนักอยู่ที่ 115 กรัม ทำให้สามารถพกใส่ในกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกงได้ง่าย ๆ
ส่วนด้านหน้าของอุปกรณ์ จะมีจอสัมผัสขนาด 2.88 นิ้ว ด้านข้างจะมีล้อเลื่อนเล็ก ๆ ทำหน้าที่เป็นเหมือนปุ่มหมุนผ่านการ์ดการทำงานต่าง ๆ บนจอ ตัวเครื่องมีกล้องที่สามารถหมุนได้ สำหรับใช้ในการรับภาพ มีลำโพงและไมโครโฟน รองรับการโทรผ่านวิดีโอได้ และสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ wifi พร้อมใส่หน่วยความจำขนาด 4 กิกกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 128 กิกกะไบต์ (GB) และพอร์ต USB-C รวมถึงช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ในตัว
ตัวอุปกรณ์ทำงานโดยใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่จากบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) เจ้าของผลงานดังอย่างแชตจีพีที (ChatGPT) เพื่อใช้ทำความเข้าใจคำขอต่าง ๆ และใช้ในการตอบสนองต่อคำสั่ง ด้วยการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานอาจจะออกคำสั่งว่าให้อุปกรณ์ช่วยเรียกรถรับส่งมารับที่บ้าน เพื่อเดินทางไปสถานที่ทำงาน
โมเดลเอไอที่อยู่ภายในอุปกรณ์ จะรับฟังคำสั่งแล้วประมวลผล จากนั้นมันจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันเพื่อเรียกรถให้เรา
ผู้ช่วยเอไอแบบพกพานี้ เคาะราคาจำหน่ายอยู่ที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,900 บาท คาดว่าพร้อมวางจำหน่ายเดือนเมษายนนี้
นวัตกรรมหน้ากากเก็บเสียง
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยรู้สึกเกรงใจเวลาที่ต้องคุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะ เพราะเสียงของเราอาจจะไปรบกวนคนรอบข้าง เพื่อแก้ปัญหานี้ สตาร์ตอัปในฝรั่งเศสจึงออกไอเดียทำ หน้ากากเก็บเสียง ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่พูดคุยได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าเสียงจะดังเกิน จนสร้างความรำคาญให้คนอื่น
ผลงานนี้มีชื่อว่า ไซเลนต์ มาส์ก (Silent Mask) พัฒนาโดยบริษัท สกาย-เท็ด (Skyted) จากประเทศฝรั่งเศส หน้ากากตัวนี้หนัก 220 กรัม ออกแบบให้ครอบปิดบริเวณปากและจมูกของผู้สวมใส่ พร้อมช่องระบายอากาศ มีสายรัดป้องกันการร่วงหล่น มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมชาร์จครั้งละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมง
ด้านในของหน้ากาก จะมีชั้นกรองดูดซับเสียงที่ใช้เทคโนโลยีลดเสียงรบกวน แบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่องยนต์ไอพ่น โดยจะใช้ตัวสะท้อนคลื่นเพื่อดึงคลื่นเสียงเข้ามาในช่องเล็ก ๆ ของหน้ากาก แทนที่จะรั่วออกไปด้านนอก ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอวกาศยุโรป หรือ อีเอสเอ (ESA) และแอร์บัส (Airbus) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบิน
บริษัทเคลมว่า ด้วยเทคโนโลยีนี้ จะช่วยดูดซับเสียงของผู้ใช้งาน ไม่ให้ดังออกไปนอกหน้ากากได้มากถึงร้อยละ 80 หรือเสียงจะดังอยู่ที่ประมาณ 25 เดซิเบลเท่านั้น เพียงพอที่จะไม่ไปรบกวนคนข้าง ๆ
แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกลัวว่าคู่สนทนาโทรศัพท์หรือในวิดีโอประชุมของเราจะได้ยินเสียงไม่ชัด เพราะในหน้ากาก จะมีไมโครโฟนขนาดเล็กติดตั้งอยู่ สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือแล็ปท็อปโดยใช้บลูทูธเพื่อส่งเสียงไปยังคู่สนทนาได้
นอกจากนี้ ตัวหน้ากากเองยังทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวกันเสียงภายนอก ไม่ให้มารบกวนเสียงพูดของเราได้ และหากผู้ใช้งาน จำเป็นต้องพูดคุยกับบุคคลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงในขณะที่ใช้งานหน้ากาก ก็เพียงเปิดเสียงพูด ให้ออกผ่านลำโพงภายนอกของหน้ากากเท่านั้นครับ
ทั้งนี้ บริษัทได้ประกาศวางจำหน่ายหน้ากาก ไซเลนต์ มาส์ก (Silent Mask) แล้วผ่านหน้าเว็บไซต์ระดมทุน คิกสตาร์ตเตอร์ (Kickstarter) ในราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 27,900 บาท